Grill or Grilled?
ในฐานะแฟน BMW เรารู้ว่ากระจังหน้าไตคู่นั้นคืออัตลักษณ์ที่คนทั่วโลกจดจำ BMW ได้มากกว่างานดีไซน์ชิ้นไหนๆ แต่พอเวลาผ่านไปเกือบสี่ทศวรรษนับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของซีรีส์ 3 รหัสตัวถัง E21 ในปี 1975 เราก็อาจจะมองว่ามันเป็นเพียงงานดีไซน์ชิ้นนึงที่กลมกลืนไปกับตัวรถจนไม่ทันสังเกตว่า แท้จริงแล้วกระจังหน้าไตคู่บน ซีรีส์ 3 (แล้วก็ BMW รุ่นอื่นๆ ด้วยนั่นแหละ…) มีคอนเซปต์การออกแบบที่ปรับเปลี่ยนอยู่ตลอด และขนาดก็ใหญ่โตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แถมแต่ละรุ่นก็ยังมีเอกลักษณ์ที่ถูกส่งต่อกันมาแฝงอยู่เสมอ
ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันที่แม้กระจังหน้าของ ซีรีส์ 4, M3 และ M4 ใหม่ จะใหญ่โตจนคนทั่วโลกพร้อมใจกันขนานนามว่าเป็นหนูยักษ์คาปิบาร่า หมูป่า หรือสัตว์ประหลาดอีกมากมาย แต่มันก็มีแรงบันดาลใจมาจากรถสปอร์ตคูเป้ในอดีตอย่าง BMW 328 Coupé ปี 1938 ที่มีกระจังหน้าทรงตั้งกับ BMW 3.0 CSi ปี 1968 คลาสสิคระดับตำนาน ซึ่งเป็นรถแจ้งเกิดอีกหนึ่งคันให้กับ BMW ในวงการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก จน BMW ได้ทำ BMW 3.0 CSL Hommage ออกมาระลึกถึงในปี 2015 ไปแล้วครั้งนึงอยู่ด้วย เราเลยคิดว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะมาย้อนดูดีไซน์กระจังหน้าของรถรุ่นยอดฮิตแห่ง BMW กันเสียหน่อยในธีม
“The Most … Grille’ โดยเริ่มจากเจ้าตัวต้นเรื่องของบทความนี้…
G22 – The Most Polarizing Grille
ทีมออกแบบพยายามทำให้ดีไซน์ของ ซีรีส์ 4 ใหม่ มีความแปลกแยกออกมาอย่างชัดเจน เพื่อที่จะทำให้มันไม่ใช่ ซีรีส์ 3 ที่ถูกหั่นประตูทิ้งไปสองบานเท่านั้น พวกเขาเลยตัดสินใจดีไซน์ด้านหน้าของรถขึ้นมาใหม่หมด และปั้นให้กระจังหน้าเป็นพระเอกที่ควรจะขี่ม้าขาวมาช่วยภารกิจของพวกเขาให้ลุล่วงในครั้งนี้ แต่ไม่ว่าจะอ้างถึงตำนานแสนขลัง อัดรายละเอียดทั้งการปรับพื้นผิวกรอบด้านนอกให้เป็น 3D ปรับมุมกระจังก้มลงพื้นเหมือนปากฉลาม เปลี่ยนลวดลายในกระจัง และลากเส้นจากฝากระโปรงเข้ามาหาด้วยก็แล้ว ผลตอบรับบนอินเตอร์เน็ตและโซเชียวเน็ตเวิร์กก็ดูจะไม่ค่อยไปในทางที่พวกเขาคาดหวังเท่าไหร่นัก เรื่องราวดูเหมือนจะสาหัสขึ้นหลังจากการเปิดตัว M3 และ M4 ใหม่ ที่หลายคนยังหวังว่า M3 อันเป็นที่รักของชาวบิมเมอร์ทั่วโลกจะยังคงได้จมูกเล็กเหมือน ซีรีส์ 3 G20 แต่กลับกลายเป็นหน้าเดียวกับ M4 ไปเสียแทน
ส่วนตัวผมคิดว่าเดี๋ยวเราก็คงผ่านมันไปได้เหมือนกับที่เราเคยผ่าน E60 ในยุคแบงเกิลมาแล้ว แต่นั่นก็หมายความมันอาจจะต้องรออีก 1-2 ทศวรรษ เรื่องนี้คนที่ต้องรับผิดชอบไม่ใช่ใครในทีมออกแบบของ BMW แต่ควรจะเป็น Audi…
G20 – The Most Design Breakthrough Grille
คงไม่ใช่เรื่องแปลกใจแล้วในตอนนี้ถ้าผมจะบอกคุณว่าดีไซเนอร์ที่ออกแบบ ซีรีส์ 3 G20 รุ่นล่าสุดคือ Alexey Kezha และ Marc Michael Markefka ซึ่งเป็นคนละคนกับที่ออกแบบ ซีรีส์ 4 ใหม่ กระจังหน้าของ ซีรีส์ 3 รุ่นนี้มีดีไซน์ที่ทันสมัยขึ้นมากด้วยการรวมกระจังเข้าเป็นชิ้นเดียวกันอีกครั้ง และการปรับรูปแบบของไตให้เป็นห้าเหลี่ยมที่มีจุดกว้างสุดอยู่ซีกบน ส่วนลวดลายภายในกระจังก็ออกแบบใหม่แทนการใช้ซี่แนวตั้งแบบเดิม หากไม่นับ ซีรีส์ 5 ที่ต่างประเทศได้มีการปรับโฉม LCI และใช้กระจังแบบ ซีรีส์ 7 ไปแล้ว นี่คือกระจังหน้าไตคู่ที่ดูเป็น “BMW” มากที่สุดในไลน์อัพตอนนี้แม้มันจะมีรายละเอียดใหม่ๆ มากมาย เรื่องน่าตลกคือแฝดต่างฝาของมันกลับมีกระจังที่สุดโต่งมากที่สุดไปซะอย่างนั้น
F30 – The Most Lovable Grille
ถ้าย้อนเวลากลับไปครั้งสุดท้ายที่โลกของคนรัก BMW พูดถึง ซีรีส์ 3 ใหม่ โดยไม่หยิบกระจังหน้าขึ้นมาคุยกันเป็นเรื่องใหญ่โต ก็คงจะเป็นตอนที่ ซีรีส์ 3 F30 เปิดตัว ซึ่งเป็นการผสมผสานดีไซน์ที่ชาวใบพัดฟ้าขาวมีใจให้อย่างเปี่ยมล้นในสมัย E46 มาผนวกเข้ากับเส้นสายที่เฉียบคมขึ้นในยุคใหม่ ซีรีส์ 3 F30 ออกแบบโดย Christopher Weil บุคคลผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบ MINI รุ่นใหม่ทุกรุ่น รวมถึง BMW 328 Hommage ด้วย กระจังหน้าไตคู่ของ F30 มีรูปร่างสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนที่ปลายด้านบนยื่นออกมาเล็กน้อยและมีความโค้งมนคล้าย E46 แต่มีขนาดที่กว้างขึ้นจนมาจรดกับไฟหน้าทั้งสองฝั่ง มันอาจจะดูไม่มีอะไรให้พูดถึงมากนัก แต่มีความลงตัวเข้ากับรถได้อย่างสวยงาม เมื่อคิดว่านี่คือกระจังหน้าไตคู่แบบ BMW แท้ๆ ที่เราเคยรู้จักกันมานานรุ่นสุดท้าย มันก็ให้ความรู้สึกพิเศษขึ้นมาทันที
E90 – The Most Lipped (?) Grille
E90 อาจจะเป็นช่วงเวลาเดียวในอดีตของ BMW ที่สถานการณ์ด้านงานดีไซน์มีความใกล้เคียงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพราะมันคือยุคของ Chris Bangle หรือ “คนที่ฆ่างานดีไซน์ของ BMW” อย่างที่แฟนพันธุ์แท้หลายคนพูดถึง แม้ว่า E90 จะเป็นรถรุ่นที่ Chris ได้เข้ามาเกี่ยวข้องน้อยที่สุด ด้วยความที่ผู้บริหารต้องการให้รถกระแสหลักที่ผลิตขายปีละเกือบครึ่งล้านคันของพวกเขายังคงเป็น Cash cow ปั๊มเงินเข้ามาหล่อเลี้ยงองค์กร คนคุมดีไซน์หลักจึงถูกมอบหมายให้ Joji Nagashima ที่เคยออกแบบ E36, E39 และ Z3 รุ่นแรกมารับผิดชอบ กระนั้นเราก็เห็นความแตกต่างไปจาก E46 เป็นอย่างมากใน E90 ซึ่งรวมถึงกระจังหน้าที่มีความหนาของกรอบไม่สมมาตรกันเป็นครั้งแรก โดยดีไซน์ให้ขอบด้านบนหนาเกยขึ้นไปอยู่บนฝากระโปรง ส่วนตัวกระจังกับขอบอีกสามด้านยังติดอยู่กับกันชนหน้า ในช่วงกลางยุค 2000s ดีไซน์ของ E90 อาจจะดูไม่เข้าตา จนกระทั่ง BMW ต้องปรับดีไซน์ด้านหน้าใหม่หมดรวมถึงกลับไปใช้กระจังไตคู่แบบคล้ายเดิมในรุ่น LCI แต่พอเวลาผ่านไปเกือบ 20 ปี วันนี้ E90 คือหนึ่งในซีรีส์ 3 ที่ดูมีเสน่ห์และทันสมัย และยังสามารถจอดเทียบกับรถรุ่นใหม่ๆ ได้สบาย
E46 – The Most Memorable Grille
มีคนเคยบอกผมว่า รถยนต์ในดวงใจของเรามักจะเป็นรถที่ทำออกมาในยุคที่เรากำลังเรียนมหาวิทยาลัย ผมไม่แน่ใจว่ามันจริงไหม แต่ E46 ก็คือรถที่ขายตอนผมเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยจริงๆ นั่นแหละ และความชื่นชอบของผมก็แผ่ไปถึง ซีรีส์ 5 E39 ด้วย ในโลกของคนเล่น BMW มักจะขนานนามว่า ซีรีส์ 5 E39 คือ ซีรีส์ 5 ที่ดีที่สุดตลอดกาล โดยมักจะปล่อยให้ซีรีส์ 3 น้องเล็กหลบอยู่ในเงามืด ทั้งที่งานดีไซน์มีความใกล้เคียงกันมากชนิดที่ว่าดูปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นรถยุคเดียวกัน แต่ยังมีรายละเอียดที่แยกรถทั้งสองรุ่นออกจากกันได้อย่างชัดเจน ไม่น่าเบื่อเป็นไส้กรอกสามขนาดแบบรถหลายรุ่นในทุกวันนี้ เรื่องที่คุณอาจจะแปลกใจก็คืองานออกแบบของ ซีรีส์ 3 E46 ถูกเริ่มขึ้นในสมัยที่ Chris Bangle นั่งเป็นนายใหญ่แผนกดีไซน์ของ BMW แล้ว แต่ Outsource โปรเจคท์ไปให้บริษัท DesignworksUSA โดยมีนักออกแบบชื่อ Erik Goplen รับผิดชอบโครงการนี้ กระจังหน้าไตคู่ของ E46 เป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนที่มีความโค้งมนเหมือนตัวถังของมัน และมีกรอบด้านนอกที่หนากว่า E36 และ E90 จะว่าไปตัวกรอบก็มีความคล้ายคลึงกับ G20 อยู่บ้าง แค่ไม่ได้กว้างไปจนเกือบถึงไฟหน้าและไม่ได้เชื่อมติดกันเป็นชิ้นเดียวเท่านั้น
E36 – The Most Subtle Grille
“Less is more” เป็นคำที่ใช้ได้กับทุกสถานการณ์ กระจังหน้าไตคู่ของ ซีรีส์ 3 E36 ก็เช่นกัน เพราะพอเอารูปมาวางเทียบกันแล้ว E36 น่าจะเป็นซีรีส์ 3 ที่กระจังเบาบางที่สุด มันมีขอบที่บางเฉียบ ส่วนตัวกระจังก็ฝังจมลงไปในหลุมของมันบนกันชนหน้า ซี่แนวตั้งสีดำแบบบางละเอียดก็ยิ่งทำให้มันไม่น่าจะเป็นจุดสังเกตเข้าไปอีก แต่พอถอยออกมาดูภาพรวม มันกลับกลายเป็นองค์ประกอบหลักของงานดีไซน์ด้านหน้ารถได้อย่างน่าทึ่ง E36 เป็น ซีรีส์ 3 รุ่นแรก ที่พยายามดึงกระจังกับไฟหน้าให้เข้ามาอยู่ใกล้กันมากที่สุด ทำให้พื้นที่ระหว่างนั้นไม่จำเป็นต้องมีตะแกรงสีดำมาคั่นเอาไว้ และทำให้รถดูทันสมัยขึ้นอีกมาก ส่วนคนออกแบบ E36 ก็คือ Pinky Lai ที่พอได้ยินชื่อแล้วคนในวงการดีไซน์รถคงจะร้องอ๋อยาวสักห้านาที เพราะเขาอยู่เบื้องหลังรถสวยๆ หลายคัน เช่น Ford Sierra, Fiesta, Escort และหลังจากมาทำงานให้ BMW ได้โปรเจคท์เดียว เขาก็ได้รับเชิญไปเป็น Studio Chief ของ Porsche Styling และเริ่มออกแบบทุกรุ่นตั้งแต่ Boxster ไปจนถึง Cayman ซึ่งนั่นก็รวม 911 (996) ที่พลิกดีไซน์ดั้งเดิมที่ใช้กันมาตั้งแต่ 911 รุ่นแรกด้วย
E30 – The Most Iconic Grille
ผมสงสัยว่าวันนี้เราจะสามารถเรียก E30 ว่า ซีรีส์ 3 ที่แพงที่สุดในประเทศไทยได้หรือยัง เพราะค่าตัวรุ่นคูเป้สภาพดีในตลาดมือสองมีตั้งแต่ครึ่งล้านไปจนถึงล้านกว่า ส่วนถ้าเป็น M3 ทั้งแท้หรือทำก็ต้องหาเงินระดับ BMW 530e Elite ใหม่ไปสู่ขอ เพราะฉะนั้นเรื่องความพิเศษและฐานะของ E30 ในใจของคนรัก BMW ที่กรีดเลือดออกมาเป็นสีฟ้าขาวและเสียงลมหายใจดังเป็นจังหวะราวกับใบพัดเครื่องบินคงไม่ต้องนำมาพูดกันให้มากความ กระจังหน้าของ E30 ยังคงดีไซน์ของ ซีรีส์ 3 รุ่นแรกอย่าง E21 เอาไว้มาก มีการปรับรูปร่างให้เหลี่ยมคมขึ้นเพื่อให้ดูทันสมัยรับกับดีไซน์ของรถ และขยายขนาดขึ้นเล็กน้อยให้เหมาะกับตัวรถที่ตัวโตขึ้น รวมถึงแยกออกมาเป็นสองชิ้นด้วย ดีไซน์ด้านหน้าของ E30 ยังคงเป็นแบบ All Grille หรือกระจังเต็มพื้นที่ ซี่งเริ่มมาตั้งแต่สมัย Neue Klasse ซีรีส์ 02 ทำให้พื้นหลังของกระจังไตคู่และพื้นที่ด้านข้างยังคงเป็นตะแกรงกระจังหน้ายาวตลอดแนว นักออกแบบที่รับผิดชอบงานดีไซน์ ซีรีส์ 3 ที่มีคนรักทั่วโลกมาถึง 40 ปี แล้วก็คือ Claus Luthe
E21 – The Most Humble Grille
กลับมาสู่จุดที่ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น ซีรีส์ 3 E21 ถูกออกแบบโดย Paul Bracq ที่ออกแบบ BMW Turbo Concept ซึ่งกลายมาเป็น BMW M1 ในเวลาต่อมา กระจังหน้าไตคู่ของ E21 เป็นแบบชิ้นเดียวและมีขนาดเล็กที่สุดใน ซีรีส์ 3 ทุกรุ่น หลายคนอาจจะคิดว่ากระจังหน้าไตคู่ของ BMW เพิ่งจะมาติดกันเป็นชิ้นเดียวในยุคหลัง แต่แท้จริงแล้วพวกเขาเคยทำมันเป็นชิ้นเดียวตั้งแต่ปี 1975 แล้ว
พาชมกระจังหน้าของ ซีรีส์ 3 กันครบทุกเจนเนอเรชันแล้ว ถ้าจะให้เลือกเพียงหนึ่งเดียวผมคงยกให้กระจังหน้าของ F30 เป็นอันดับหนึ่งในดวงใจ ส่วน ซีรีส์ 4, M3 และ M4 ใหม่นั้น เอาเป็นว่าขอให้โปรเจคท์ LCI เริ่มขึ้นในเร็ววันก็แล้วกัน…
Bimmer-th
