ครั้งแรกกับเสียงของรถยนต์ไฟฟ้าจาก BMW M

ด้วยความที่ BMW i4 จะเริ่มขายจริงในตลาดโลกกันในอีกไม่นานแล้ว และมันก็จะเป็นรถไฟฟ้ารุ่นแรกในประวัติศาสตร์กว่าหนึ่งทศวรรษของแบรนด์ BMW i ที่จะได้รับเกียรติแปะตัวอักษร ///M ไว้บนตัวรถ อารมณ์ที่ส่งจากรถเข้ามากับรอยยิ้มตรงมุมปากของคนที่อยู่หลังพวงมาลัยจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะมันคือการเอาชื่อเสียง M ที่เปรียบเสมือนเสาหลักของแบรนด์ BMW มาสามสี่สิบปีเป็นเดิมพัน งานนี้จึงต้องถึงมือ Hans Zimmer นักแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์อย่างที่กวาดรางวัล Academy Awards, Grammy Awards, Classical BRIT Awards และอื่นๆ มาแล้วนับไม่ถ้วนในการ “สร้าง” เสียงให้กับ BMW M ยุคต่อไปที่จะขับเคลื่อนไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ เพราะเสียงคือสิ่งที่ปลุกเร้าโสตประสาทต่างๆ และความรู้สึกของการมีส่วนร่วมระหว่างคนขับกับรถ ซึ่งเป็น DNA ที่เข้มข้นของ BMW M มาอย่างยาวนาน

Hans บอกว่า “รถ BMW ทุกคันมีคาแรคเตอร์เฉพาะตัวที่สื่อสารออกมาทางเสียง เพราะฉะนั้นรถ BMW M ไฟฟ้าก็จะต้องมีเสียงตอนขับที่กระตุ้นให้เกิดอารมณ์ร่วมได้ และมันจะต้องสื่อถึงสมรรถนะได้อย่างเข้มข้นด้วย” ก่อนหน้านี้ Hans เคยช่วยสร้างเสียง Start/Stop ให้ BMW eDrive มาแล้ว ใครที่ใช้หรือเคยขับ BMW 530e G30 LCI รุ่นปัจจุบันอยู่ก็คงจะเคยได้ยินกันมาบ้าง ซึ่งแม้แต่ผมที่เป็นแฟนเครื่องยนต์สันดาปภายในตัวยง ก็ยังรู้สึกว่ามันน่าฟังและทำให้รู้สึกอยากขับรถได้ดีเหมือนกัน และเขาก็ยังสร้างเสียงตอนขับให้กับ BMW iX และ BMW i4 รุ่นปกติอีกด้วย แต่พอมาเป็นเวอร์ชัน M ของ BMW i4 มันก็จะต้องเป็นอีกเสียงนึงที่ดุดันทรงพลัง แต่สัมผัสได้ถึงความแม่นยำและเฉียบคม

Renzo Vitale, Creative Director Sound แห่ง BMW Group อธิบายเสียงของรถ BMW M ในปัจจุบันว่า ทุกครั้งที่กดคันเร่ง คุณจะรู้สึกขนลุกจนสะท้านไปทั้งตัว มันเป็นตัดเรื่องหลักการและเหตุผลในสมองคุณให้มืดลงชั่วขณะ คงเหลือไว้แต่อารมณ์ล้วนๆ โจทย์สำหรับ BMW M ไฟฟ้าก็คือจะทำให้คนขับรู้สึกดียิ่งกว่ารถเครื่องเบนซินของพวกเขาที่รู้จัก ฟังดูน่าตื่นเต้นและขับเพลินยิ่งกว่าประสบการณ์เดิมๆ ได้ยังไง เขากับ Hans ก็เลยเริ่มค้นคว้าเสียงแบบต่างๆ ที่จะทำให้อารมณ์ถูกกระตุ้นจนกระเจิดกระเจิง แล้วก็มาสรุปกับเนื้อเสียงที่สื่อถึงพลัง ที่จะต้องผสมผสานความแข็งแรงเข้ากับพลังงานที่พรั่งพรูออกมา จากนั้นก็เติมความแปลกใหม่เข้าไปอีกนิด เพราะคาแรคเตอร์ของเจ้าของ BMW M ส่วนใหญ่ก็พร้อมจะทดลองอะไรใหม่ๆ อยู่แล้ว

เสียงที่เนื้อเสียงสื่อถึงพลัง ผสมความแข็งแรงกับพลังงานที่พรั่งพรู กระตุ้นอารมณ์ และแปลกใหม่ เป็นเสียงแบบนี้ครับ…

…ส่วนตัวแล้วคิดว่ามันก็ไม่เลวเลยทีเดียว

สำหรับเวอร์ชัน M นั้นจะเปลี่ยนไปตามโหมดการขับที่เลือกเอาไว้ด้วย โดยระหว่างโหมด COMFORT กับ SPORT นั้นเนื้อเสียงก็จะมีความต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โหมดหลังจะระรัวปนเสียงโซนิคที่ทำให้รู้สึกตื่นตัวร่วมไปกับรถได้มากกว่า และน่าจะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรถที่จะออกจำหน่ายในปี 2022 ส่วน BMW i4 รุ่นปกติก็สามารถสั่งซื้อออพชัน IconicSound เพิ่มได้ ทั้งนี้ รายละเอียดที่แน่ชัดคงต้องรอให้ถึงวันที่ BMW i4 เปิดตัวพร้อมจำหน่ายจริงอีกครั้งครับ

เสียงเพียงเรื่องเดียวยังคิดซับซ้อนกันถึงขนาดนี้ ก็คงต้องบอกว่าแม้เชื้อเพลิงที่ใช้ขับเคลื่อน BMW M จะเปลี่ยนไป แต่ BMW M GmbH ยังคงคอนเซปต์เดิมไว้อย่างเหนียวแน่น “WHERE TOO MUCH IS JUST RIGHT”

The following two tabs change content below.
มนุษย์เงินเดือนผู้คลั่งไคล้ในรถยนต์สมรรถนะยอดเยี่ยม นักแข่งรถสมัครเล่นที่มักจะพบเห็นวิ่งดมฝุ่นอยู่ท้ายสนาม คุณพ่อของลูกสาวที่น่ารัก และหนึ่งในทีมงาน Bimmer-th.com

Comments

comments