เปิดตัว BMW X1 xDrive25Le (Plug-in Hybrid) ที่งาน Chengdu Motor Show 2016

2016_bmw-x1-xdrive25le_06

BMW ได้มีการเปิดตัว X1 ใหม่อย่างรุ่น xDrive25Le นับเป็นครั้งแรกในการนำเทคโนโลยีแบบ Plug-in Hybrid มาใช้ในรถ compact luxury SUV และได้กำลังจัดแสดงอยู่ที่งาน Chengdu Motor Show 2016 ณ ประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2559 ถึงวันที่ 11 กันยายน 2559 นี้

BMW X1 xDrive25Le เป็นสมาชิกล่าสุดที่ถูกใส่เทคโนโลยี Plug-in Hybrid ตามรอยรุ่นพี่ BMW ในตระกูล Le ที่เน้นรวมสมรรถนะในการขับขี่ ความประหยัด ความสะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกัน และที่สำคัญคือในขณะนี้รถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่าง X1 Plug-in Hybrid ก็ได้สอดคล้องกับนโยบายอุตสาหกรรม NEV ของจีนพอดี เลยทำให้ทีมผู้ผลิต และ R&D(วิจัยและพัฒนา)ของ BMW สนใจที่จะปักหลักมุ่งไปยังตลาด NEV ของจีนต่อไป

2016_bmw-x1-xdrive25le_05

BMW X1 xDrive25Le iPerformance ใช้ 2 พลังงานในการขับเคลื่อนทั้งเครื่องยนต์และไฟฟ้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ จะแบ่งหลักการทำงานโดยที่เครื่องยนต์จะส่งผ่านกำลังในการขับเคลื่อนล้อหน้า เครื่องยนต์ที่ใช้เป็นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร 3 สูบ ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิด 220 นิวตันเมตร  พ่วงกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ในการขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 165 นิวตันเมตร

แบตเตอรี่ hybrid ที่ใช้เป็นแบตเตอรี่แบบลิเธียมขนาดความจุ 10.7 kWh สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนด้วยระยะทางมากถึง 60 กิโลเมตร และเมื่อเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกันสามารถวิ่งได้ไกลถึง 630 กิโลเมตร ในขณะที่ถังจุน้ำมันเพียงแค่ 35 ลิตรเท่านั้น

2016_bmw-x1-xdrive25le_01

โหมดการขับขี่ของรุ่นนี้จะมีโหมด ECO PRO / Comfort / Sport เหมือนกับ X1 รุ่นปกติ แต่ว่าจะแตกต่างกันตรงที่จะมีการเพิ่มโหมดขับขี่สำหรับรุ่น Plug-in Hybrid มาให้เลือกใช้งานเพิ่มเติมจากรุ่นธรรมดา

  • AUTO eDRIVE เป็นโหมดปกติที่จะถูกเซตค่าเอาไว้ในต่ำแหน่งเริ่มต้นทุกครั้งที่สตาร์ทเครื่องยนต์ โดยโหมดนี้สมองกลจะเลือกใช้พลังงานขับเคลื่อนระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้ผสานกันอย่างเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ และยังสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดด้วยไฟฟ้าถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในกรณีที่ความเร็วเกินมากกว่านี้หรือปริมาณแบตเตอรี่ไม่เพียงพอ เครื่องยนต์ก็จะติดขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
  • MAX eDRIVE เป็นโหมดที่วิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว ทำให้การปล่อยมลพิษนั้นเป็นศูนย์ เป็นประโยชน์อย่างมากถ้าใช้ในเมืองที่มีการจราจรที่หนาแน่น และยังสามารถวิ่งด้วยความเร็วได้สูงสุดถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • SAVE BATTERY ในโหมดนี้ระบบจะทำการรักษาระดับพลังงานในแบตเตอรี่ให้มีปริมาณมากกว่า 50% ตลอดเวลาเพื่อสำรองแบตเตอรี่ไว้ใช้ในโหมด MAX eDrive ถ้าแบตเตอรี่เหลือต่ำกว่า 50% เครื่องยนต์จะติดขึ้น แล้วชาร์จไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ทันที

2016_bmw-x1-xdrive25le_07

แบตเตอรี่ hybrid จะถูกวางไว้ตรงกลางของตัวรถพอดีเพื่อให้อยู่ในต่ำแหน่งที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดโดยคำนึงถึงอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นจากการชนด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง ส่วนในด้านการใช้งานโดยปกติทั่วไปแบตเตอรี่มักจะเกิดความร้อนเมื่อถูกใช้งานอย่างหนัก BMW ก็ได้ใส่ระบบควบคุมอุณหภูมิในรูปแบบของเหลวเพื่อรักษาอุณหภูมิให้เหมาะสมในการใช้งาน ช่วยให้เป็นประโยชน์ต่อประสิทธิภาพการทำงาน และยังยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่อีกด้วย

การชาร์จแบตเตอรี่มี 2 ทาง คือ การชาร์จพลังงานจากเครื่องยนต์หรือพลังงานจลน์ที่เกิดขึ้นจากการเบรก และอีกวิธีคือการชาร์จไฟด้วยสายชาร์จ (Plug-in) ผ่านแท่นชาร์จไฟติดผนังของ BMW ที่เรียกว่า i Wallbox จ่ายกำลังไฟ 220V/16A สามารถชาร์จแบตเตอรี่ถึง 80% ภายใน 2.9 ชั่วโมง และสามารถชาร์จเต็ม 100% ในเวลาเพียงแค่ 3.7 ชั่วโมงเท่านั้น

2016_bmw-x1-xdrive25le_04

จุดแข็งของ BMW ก็หนีไม่พ้นสุนทรียภาพของการขับขี่ BMW X1 xDrive25Le Plug-in Hybrid นั่นก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว โดย BMW ได้กล่าวว่า “ในตลอดศตวรรษที่ผ่านมาพวกเขาได้ตั้งใจทำรถยนต์ที่มอบความสุขในการขับขี่อย่างแท้จริง ไม่ว่าเทคโนโลยีที่ใช้จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือต่างกัน BMW ก็ยังจะยึดมั่นในการที่จะมอบความสุขกับผู้ขับขี่อย่างเช่นเคย ”

ที่มา :BMWGROUP

 

Comments

comments