Review BMW 320Li Gran Sedan หรู ยาว ซนได้!

BMW 3 Series คือหนึ่งในรถที่เกิดมาเพื่อวัยรุ่นทุกยุคทุกสมัย มันคือรถที่เป็นดุจพระเอกในใจของหนุ่มสาวหลายคน ด้วยขนาดตัวรถที่เหมาะสม หน้าตาที่หล่อเหลา แถมยังมีราคาที่ดีทั้งในตลาดมือ 1 และ 2 จึงไม่แปลกที่เราจะเห็น 3 Series วิ่งอยู่เต็มท้องถนน

จนมาถึงต้นปี 2021 BMW Thailand ได้ตัดสินใจนำ 3 Series Gran Sedan เข้ามาบุกตลาดในไทย โดยมีรหัสตัวถังว่า G28 ซึ่งมีขนาดฐานล้อและพื้นที่ภายในที่ยาวมากขึ้นกว่าเคย ออกแบบมาเพื่อเอาใจคนนั่งหลังโดยเฉพาะ

BMW Thailand ได้นำเข้า 3 Series Gran Sedan เข้ามาจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็น 330Li M Sport และ 320Li Luxury ทั้ง 2 รุ่นถูกนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย โดยรุ่นที่เรานำมารีวิวในวันนี้คือ 320Li ซึ่งถูกตกแต่งมาในรูปแบบ Luxury

ภายนอกของรถนั้นโดดเด่นด้วยชุดกระจังหน้าและช่องดักลมตัว T สีเงิน เช่นเดียวกับกรอบกระจกรถที่ตกแต่งมาในแนวหรูหราสว่างรับไปกับสีของกระจังหน้าและช่องดักลม

ไฟหน้าแบบ LED มาพร้อมไฟ Day time running light ที่เสริมอยู่ใต้ไฟใหญ่ จัดเต็มด้วยฟังก์ชั่น Hight-beam assistant และระบบช่วยส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง จะขาดก็เพียงแต่ไฟตัดหมอก LED ที่เอาจริงๆ ยุคนี้ก็แทบไม่ค่อยจำเป็นแล้วเพราะไฟหน้าแบบ LED ของ BMW ยุคนี้ก็สามารถให้แสงออกมาได้ ไกล คมชัดและสว่างมาก

ด้านข้างของรถโดดเด่นกว่าใครด้วยล้อขอบ 18 นิ้วลาย Multi-spoke รัดมาด้วยยางขนาด 225/45 เอาจริงๆ นี้เป็นหนึ่งในล้อลายที่ผมปลื้ม ด้วยความสว่างของล้อที่ไม่ได้ทำสีรมดำเหมือนใคร แถมลายก็ไม่ซ้ำคนอื่นเสริมความโดดเด่นให้กับตัวรถได้เป็นอย่างดี

อีกเหตุผลที่ผมว่า 320Li คันนี้มีความโดดเด่นกว่า 3 Series รุ่นย่อยอื่น คงเพราะว่า 320Li คันนี้เป็นรถเพียงรุ่นย่อยเดียวในตระกูลที่ได้รับการตกแต่งมาในแบบ Luxury อันเป็นดีไซน์การตกแต่งที่มาในโทนสว่าง ทำให้ตัวรถทั้งคันสะดุดตากว่า 3 Series ทั่วๆไปอย่างเห็นได้ชัด

ชุดกันชนท้ายถูกดีไซน์ให้สอดรับกับกันชนหน้า ด้วยเอกลักษณ์ตัว T ที่ได้รับแรงบรรดาใจมาจากช่องดักอากาศของเครื่องบินเจ็ตยุคก่อน ท่อไอเสียคู่หลังดีไซน์เป็นทรงเหลี่ยมที่ครอบด้วยโครมเมี่ยมดูแปลกตากว่า 3 Series ธรรมดาที่เป็นท่อกลม ส่วนของไฟท้ายยังเป็นในรูปแบบ L Shape รมดำเหมือนเคย

โดยภาพรวมภายนอกของรถจะมีจุดที่แตกต่างจากรุ่นธรรมดาจริงๆ หากไม่นับกรอบกระจกรถกับโลโก้ Li ที่ท้ายรถ ส่วนที่ต่างคงจะอยู่ที่บานประตูหลังกับฐานล้อรถที่ยาวมากขึ้นกว่ารุ่นปกติอยู่ 110 มิลลิเมตร หรือ 11 เซนติเมตร จะเห็นได้ชัดจริงก็เมื่อมองรถคันนี้เทียบจากด้านข้าง

ภายในของรถ

ตกแต่งมาด้วยโทนสีที่สบายตา ชุดเบาะภายในหุ้มด้วยหนัง Vernasca สีน้ำตาล Mocha ตัดด้วยการตกแต่งภายในลายไม้แบบ oak grain open-pored ที่ให้บรรยากาศชวนผ่อนคลาย แต่ยังคงความร่วมสมัยเอาไว้ เอาใจได้ทั้งผู้ใหญ่และวัยรุ่น

ชุดจอกลาง iDrive ยังคงเป็นระบบปฏิบัติการแบบ BMW OS7 ที่สามารถใช้งานได้ง่าย เลือกปรับตั้งค่าต่างๆ ได้ทั้งจากสวิตช์แป้น iDrive หรือจะทัชจากที่หน้าจอก็สามารถทำได้ หน้าจอรองรับการสั่งการด้วยมือหรือ Gesture Control มาให้ครบในทั้ง 2 รุ่นย่อย

ชุดเครื่องเสียงในรุ่น 320Li จะได้ชุดลำโพงแบบ HiFi แต่หากเป็นรุ่น 330Li จะได้ลำโพงของ Harman Kardon ซึ่งแตกต่างกันเล็กน้อยในมิติของเสียง

ตัวเบาะสามารถปรับยืดหดรองขาได้ มาพร้อมกับ memory seat 2 ตำแหน่ง เบาะชุดนี้แม้จะออกแบบมาให้โอบรับกับสรีระได้กำลังดีแต่หากเทียบกับเบาะของ 5 Series ตัวเบาะ 3 Series จะมีขนาดเบาะที่กว้างน้อยกว่าเล็กน้อย แต่จะให้ความโอบกระชับมากกว่ารุ่นพี่อยู่นิดหน่อย

จุดติเดียวที่ผมรู้สึกว่าควรปรับปรุงคงเป็นเรื่องของที่ดันหลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ BMW เหมือนจะทยอยตัดออกในช่วงปีหลังๆ มานี้ มันคือสิ่งที่ช่วยให้การเดินทางไกลสบายมากขึ้น เพราะจะช่วยรองรับช่วงหลังของเรา พอตัดออกไปทำให้ผมรู้สึกว่าตัวพนักพิงหลังมันเว้าไปหน่อย แต่เรื่องนี้อาจจะขึ้นอยู่กับสรีระของแต่ล่ะท่าน

พื้นที่โดยสารด้านหลัง กว้าง ยาว จัดเต็ม
ตัวเลข 11 เซนติเมตรอาจจะดูไม่เยอะสำหรับบางคน แต่พอกระโดดขึ้นมานั่งจริงที่เบาะหลังคุณจะสัมผัสได้ถึงพื้นที่วางขาที่กว้างมากขึ้นกว่าเคย ชุดฟองน้ำในตัวเบาะนุ่มและรองรับช่วงขาได้มากกว่ารุ่นธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด

หากเทียบกับรุ่นพี่อย่าง 5 Series ตัวเบาะหลังของ 3 Series Gran Sedan จะโอบรับตัวผู้นั่งมากกว่า 5 Series ที่ตัวเบาะจะแบนเพื่อรองรับขนาดของคนหลายๆ กลุ่มมากกว่า ส่วนของพื้นที่วางขาอันนี้ก็คงต้องมอบรางวัลให้ 3 Gran Sedan ถึงแม้ว่าขนาดฐานล้อของ 5 Series จะยาวกว่า 3 อยู่นิดหนึ่งก็ตาม

(Fact G30 5 Series ฐานล้อยาว 2,975 มิลลิเมตร, G28 3 Series Gran Sedan ฐานล้อยาว 2,961 มิลลิเมตร)

ช่องแอร์ด้านหลังปรับแยกอิสระจากด้านหน้าแบบ 3 Zone หลังคาด้านบนมาพร้อมกับกระจก Panoramic glass roof บานใหญ่ที่ยาวสะใจไม่แพ้พื้นที่วางขา

ในภาพรวมภายในของ 3 Series Grand Sedan เป็นการออกแบบที่เราเห็นได้ถึงความพยายามของทีมดีไซน์ที่ต้องการออกแบบมาเพื่อเอาใจลูกค้าในทุกๆ กลุ่ม คนขับยังคงได้ตำแหน่งนั่งที่เอาใจผู้ขับ ชุดเบาะที่โอบกระชับ แต่ก็มีพื้นที่ด้านหลังที่กว้างเอาใจครอบครัวได้มากกว่าเคย แถมยังมีการตกแต่งไฟ Ambient light ไว้ที่ด้านหลังเบาะหน้ามอบความรู้สึกพิเศษแก่คนนั่งหลังมากกว่ารุ่นฐานล้อธรรมดา

พื้นที่เก็บของด้านหลัง
จุได้ถึง 480 ลิตรแต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถปรับพับเบาะหลังลงได้

ฝาท้ายด้านหลังเป็นแบบไฟฟ้า สามารถแตะเปิดและปิดได้ หรือจะกดปุ่มจากสวิตช์ที่ฝาท้ายก็สามารถทำได้เช่นกัน

ขุมพลังของ 320Li คันนี้

คือเครื่องยนต์เบนซิน B48B ขนาด 2.0 ลิตร BMW TwinPower Turbo ที่ให้แรงม้า 184 แรงม้าที่ 5,000-6,500 รอบต่อนาที โดยมีแรงบิดที่กำลังสนุกอยู่ที่ 300 นิวตันเมตร มาเป็นช่วงกว้างตั้งแต่ 1,350-4,000 รอบต่อนาที

หากเป็นรุ่น 330Li M Sport ก็จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน B48 เหมือนกัน แต่จะมีการปรับจูนกำลังเพิ่มเติมให้มีแรงม้าอยู่ที่ 258 แรงม้า กับแรงบิด 400 นิวตันเมตร

ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์ ZF 8 จังหวะแบบ Steptronic ธรรมดา ข้อดีคือขับขี่ในเมืองเกียร์จะสมูทไม่คาเกียร์ไว้เหมือนรุ่นที่เป็น Sport Steptronic แต่ก็ต้องแลกมากกับจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ที่อาจจะไม่ดุเท่า

ชุดเครื่องยนต์และเกียร์ทำงานคู่กันได้อย่างลงตัว อัตราเร่งของ 320Li ถึงแม้จะมีแรงม้าที่ต่างจาก 330Li อยู่พอตัวแต่พอใช้งานจริง มันก็แรงเพียงพอให้คุณสนุกได้ในยามต้องการ ตัวเลข 0-100 ที่ BMW เคลมจากโรงงานนั้นอยู่ที่ 8.1 วินาที ซึ่งเป็นเวลาที่พอกันกับ BMW 520d ที่เป็นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล

คาแรกเตอร์ของรถเมื่อกดคันเร่งแบบไม่ปรานี รถจะมีแรงดึงพอให้คุณยิ้มที่มุมปาก พร้อมกับเข็มรอบที่กวาดขึ้นต่อเนื่องจนถึงช่วงความเร็ว 190-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แรงดึงของรถถึงแม้จะมีแรงถีบที่น้อยกว่าเครื่องยนต์ดีเซลอยู่บ้าง แต่คุณจะสัมผัสมันได้นานกว่าจากนิสัยของรถเครื่องเบนซินที่มีรอบจัดและใช้ได้กว้างกว่า

ชุดช่วงล่าง เป็นช่วงล่างแบบธรรมดาที่มีความนุ่มนวลที่สุดเมื่อเทียบกับตระกูล 3 Series รหัสตัวถัง G ทั้งหมด มันเป็นช่วงล่างที่กลมกล่อมลงตัวระหว่างการใช้งานในชีวิตประจำวันและเดินทางไกล แต่ก็กระชับเพียงพอให้คนขับสามารถบู้รถคันนี้บนทางด่วนตอนขับคนเดียวได้แบบมั่นใจ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาโช้ค adaptive แต่อย่างใด

นี่เป็นช่วงล่างที่ผมเองก็อยากเห็นใน 3 Series รุ่นฐานล้อธรรมดาสั้นบ้าง เพราะมันบาลานซ์ได้ดีและสมกับคาแรกเตอร์ของรถเมื่อตกแต่งแบบ Luxury จริงๆ

พวงมาลัยเป็นแบบธรรมดา มีน้ำหนักหน่วงกลางที่ตึงมือกำลังพอดี ความไวแม้จะแพ้รุ่นที่เป็นพวงมาลัยแบบแปรผัน แต่ก็คล่องเพียงพอสำหรับการใช้งานในเมืองและไม่ต้องเกร็งมือมากเมื่อขับทางไกลนานๆ

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงนั้นก็เป็นสิ่งที่ผมว่าก็เป็นอีก 1 จุดเด่นของรถคันนี้เพราะจากการใช้งานจริงๆ ที่เดินทางไกลแบบขับตามใจเท้า ตัวเลขที่หน้าปัดแสดง 14- 16 กิโลเมตรต่อลิตรนั้นเป็นสิ่งที่คุณสามารถทำได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเกร็งหรือใช้สูตรการขับที่พิสดารอะไร ยิ่งถ้าหากคุณเป็นคนที่ไม่ได้ขับเร็วมากโอกาสที่จะได้ตัวเลขที่ดีกว่านี้ก็เป็นไปได้สูงเช่นกัน

บทสรุป

ยาว กว้าง สบาย ประนีประนอมกับทุกความต้องการของทุกคนในบ้าน เป็น BMW ที่เหมาะสำหรับคนในทุกๆ วัย หากต้องให้ผมเลือกรถในช่วงราคา ไม่เกิน 3 ล้านบาทซักคันเน้นว่าต้องเป็นรถที่นั่งหลังสบาย ช่วงล่างไม่แข็งผู้ใหญ่นั่งสบายและเราต้องเป็นคนขับเองในทุกวัน

Series 3 Grand sedan คันนี้จะเป็นรถที่ผมเลือกและใช้ในชีวิตประจำวันได้โดยไม่รู้สึกขัดอะไร เพราะจุดเด่นของรถไม่ใช่เพียงแต่ความหรูหราสบาย แต่มันยังคงความเป็น 3 Series ที่มอบรสชาติของความสนุกแบบคนวัยหนุ่มได้อยู่ครบถ้วน

ซึ่งเมื่อเทียบกับ 530e elite ที่ราคาใกล้เคียงกันแล้วภาพของ Series 5 จะมีคาแรกเตอร์ของความเป็นผู้ใหญ่ที่ดูสุขุมมากกว่า จุดเด่นหลักของ 530e คือคุณจะได้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรแบบ Plug in hybrid ที่แรงกว่า แต่ช่วงล่างจะมาในแนวนุ่มผู้ใหญ่กระชับน้อยกว่า 320Li คันนี้

และส่วนต่างของราคานั้น คุณต้องเพิ่มเงินจาก 320Li อีกราว 500,000 บาท ( BMW 530e elite ราคา 2,999,000 บาท)

ในปัจจุบัน BMW Thailand ได้จัดจำหน่าย 3 Series Grand sedan ด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่

• BMW 320Li Luxury (ราคา 2,469,000 บาท) รุ่นที่นำมารีวิว
• BMW 330Li M Sport (ราคา 2,899,000 บาท)

*ราคาข้างต้นรวมแพคเกจ BSI Standard ข้อมูล ณ วันที่ 10/02/2022

BMW 320Li Grand sedan อาจไม่ได้เป็นรถที่เทพที่สุดในด้านใดด้านหนึ่ง แต่มันเป็นรถที่ผมมองว่าตอบโจทย์กับทุกความต้องการของทุกคนในบ้านได้เป็นอย่างดี เป็นหนึ่งในรถที่มีคุณสมบัติครบถ้วนโดยไม่ทิ้งความเป็น BMW ไป

ขอขอบคุณ
BMW Thailand
ที่เอื้อเฟื้อรถในการทดสอบ

บทความโดย
ธิติพัทธ์ หิรัญบวรทิพย์

---

สงวนลิขสิทธิ์เนื้อหาถ้อยคำรูปภาพในบทความโดยผู้เขียนและเว็บไซต์ BIMMER-TH.com
กรุณาขออนุญาตก่อนนำไปใช้

Comments

comments