รีวิว BMW M340i xDrive ควบ 387 แรงม้าไปกับ Sedan 4 ประตูสุดโหด

หากถามถึงรถยนต์​ในฝันวัยเด็กของคุณต้องมีหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง?

  • ต้องเป็นรถที่มีประตูเปิดขึ้นแบบปีกนก?
  • ต้องมีดีไซน์ภายในที่ดูอวกาศหน้าจอและปุ่มเยอะๆ?
  • หรือจะเป็นรถยนต์เปิดประทุนเหมือนพระเอกขับในหนัง?

น่าแปลกที่เวลาใครหลายคนถามถึงชื่อรถในฝันของผม มันยากที่จะตอบชื่อรถรุ่นนั้นออกไป

กาลเวลาผ่านไปไม่นานจากรถเหล็กคันจิ๋ว ผมก็ได้รับโมเดลรถคันใหญ่ที่ตกแต่งได้ละเอียดเหมือนจริงมากขึ้น ภายใต้ความละเอียดนั้นผมสามารถเปิดฝากระโปรงรถดูได้ทั้งภายในภายนอก ก่อนจะพบกับตัวเลข V12 ที่อยู่ในห้องเครื่องยนต์ หลังจากนั้นภาพรถในฝันวัยเด็กของผมจึงค่อยๆ เริ่มต้นจากนิยามความจุของเครื่องควบคู่กับตัวเลขแรงม้าและสมรรถนะที่มีเขียนบนกระดาษโบรชัว

BMW M340i xDrive คือหนึ่งในรถที่เหมือนหลุดออกมาจากความฝันของผม ด้วยภายนอกของรถ ที่หากดูผ่านตาก็เหมือน 3 Series ทั่วไป แต่หากสังเกตให้ดีขึ้นคุณจะพบจุดแตกต่างได้ในหลายๆ ที่ อาทิ

ชุดไฟหน้าแบบ Laser Light ที่มีดีไซน์ของไฟ daytime running light ที่โฉบเฉี่ยวและยาวขึ้นกว่ารุ่นปกติ มาพร้อมกับคลิบสีฟ้าด้านในของไฟหน้าซึ่งดูสวยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ผสมผสานเข้ากับกระจังหน้าแบบไตคู่ลายตาข่ายสามมิติได้อย่างลงตัว โดยตัวกระจังหน้ามีลูกเล่นดีไซน์ที่เหมือนถอดแบบมาจากกระจังของ BMW Z4 M40i

ตัวรถทั้งคันตกแต่งด้วยชุดแต่ง M Aerodynamic ที่ดูผิวเผินเหมือนจะคล้ายกับรุ่น 330i M Sport แต่พอเอามาจอดเทียบกันแล้วจะพบความแตกต่างได้จากชุดไฟตัดหมอกหน้า โดย M340i ชุดไฟตัดหมอก LED จะกลายร่างเป็นช่องระบายอากาศของเครื่องยนต์และเบรกที่มีขนาดใหญ่ขึ้นแทน

กรอบกระจกตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเหมือนรุ่น M Sport และ Sport line ปกติ จุดที่แตกต่างจากรุ่นธรรมดาจะอยู่ที่วัสดุครอบกระจกมองข้างสี Cerium Grey Metallic ซึ่งดูโดดเด่นและพรีเมี่ยมกว่าการใช้ฝาครอบกระจกข้างสีดำแบบรถญี่ปุ่นยุคใหม่

ชุดกันชนท้ายด้านหลังจะแตกต่างจาก 330i M Sport ตรงดิฟฟิวเซอร์หลังที่ M340i จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าและมีดีไซน์ของปลายท่อไอเสียแบบเหลี่ยมจากเดิมที่รุ่นธรรมดาเป็นแบบวงกลม ชุดไฟท้ายดีไซน์แบบ Slim L Shape LED เล่นสีสลับกันทำให้ล้ำและมีมิติไม่เหมือนใคร

ฝาท้ายด้านหลังเสริมความหล่อด้วย Ducktail spoiler ดีไซน์แบบ M ใช้วัสดุสีเดียวกับตัวรถช่วยเพิ่มมิติให้รถทะมัดทะแมงมากขึ้น

 (สัญลักษณ์ xDrive บ่งบอกถึงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อของ BMW M340i)
สัญลักษณ์ xDrive บ่งบอกถึงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

ชุดล้อขอบ 19 นิ้วแบบ M ลาย LMR Double Spork (หรือ Doppelspeiche ในภาษา​เยอรมัน)​ 792 Bicolor รัดด้วยยางขนาด 225/40 ในล้อหน้าและ 255/35 ในล้อหลัง ดูดุดันสมคาแรกเตอร์ความเป็นรุ่น M340i โดยชุดเบรกหน้าเป็นแบบ M 4 Pot หลัง 1 Pot ตกแต่งด้วยสีน้ำเงินพร้อมอักษร M

เมื่อมองรวมๆ แล้วภายนอกของ M340i คือการนำเอาวัตถุดิบของ 3 Series ธรรมดามาตกแต่งเพิ่มรสชาติให้ Sport คมและดุขึ้นกว่าที่เคย แต่ยังแฝงความพรีเมี่ยมที่สามารถใช้งานได้จริงทุกวัน เป็นส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับคนที่ไม่ต้องการรถที่ดูฉูดฉาดเกินไปแต่ยังคงออร่าของความไม่ธรรมดาซ่อนอยู่ข้างใน

ภายในของ BMW M340i นั้นยังคงคอนเซ็ปต์ที่มุ่งเน้นไปที่ผู้ขับเป็นหลัก วัสดุโทนสีต่างๆ คล้ายกับที่คุณพบได้ใน BMW 330e M Sport

ชุดหลังคาซันรูฟนอกจากจะช่วยเพิ่มความพรีเมี่ยมให้กับรถทั้งคันแล้ว ยังเป็นอีกส่วนที่เพิ่มความโปร่งให้กับบรรยากาศภายในห้องโดยสาร

เบาะหนังสีดำแบบ Vernasca เดินด้ายน้ำเงินเข้มตัดเข้ากับเข็มขัดนิรภัยแบบ M ที่มีแถบสีแดงน้ำเงินฟ้าเพิ่มความพิเศษให้กับห้องโดยสารอันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะในรุ่น M340i

วัสดุคอนโซลกลางตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมลาย Tetragon พวงมาลัยหุ้มหนังแบบ M พร้อมหน้าปัดไมล์และจอ iDrive แบบ live Cockpit Professional ที่มีโลโก้ M340i อยู่บนจอไมล์

ชุดหน้าปัดของ M340i นั้นจะมีขนาดของฟอนต์ตัวเลขที่ หนา คมและใหญ่กว่ารุ่นธรรมดา ดูแล้วดุดันกว่าเคยแถมยังอ่านค่าต่างๆ ได้ง่ายดายขึ้น

ชุดเครื่องเสียงแบบ Harman Kardon พร้อมแท่นชาร์จมือถือไร้สาย Wireless Charging และระบบ Gesture Control ยังมีมาให้ครบแบบจัดเต็ม

เช่นเดียวกับระบบความปลอดภัยอย่างเข็มขัดนิรภัย Active Protection, Active Cruise Control Stop&Go ที่ทำงานด้วยชุด Radar ที่ซ่อนอยู่ใต้แผ่นป้ายทะเบียน พร้อมระบบช่วยเบรกและแจ้งเตือนหากเข้าใกล้รถคันหน้ามากเกินไป ผสานกับระบบ Driving Assistance ที่จะช่วยเตือนคนขับหากวูบออกนอกเลนและระบบ Blind spot monitoring และกล้องมองรอบคัน 360 องศา

แม้ว่า M340i จะถูกดีไซน์มาเพื่อเอาใจคนขับเป็นหลักแต่อานิสงค์ของขนาดตัวรถที่ใหญ่ขึ้นกว่าในอดีตก็ทำให้พื้นที่ของผู้โดยสารด้านหลังและการลุกเข้าออกนั้นทำได้สะดวกสบายขึ้นกว่าเดิม ดีไซน์ของเบาะนั่งหลังโอบกระชับลงตัวกับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน วัสดุฟองน้ำเบาะมีการปรับปรุงให้นุ่มขึ้นจาก F30 3 Series รุ่นก่อน ทำให้สามารถพาครอบครัวผู้ใหญ่เดินทางไกลได้โดยไม่ถูกบ่น

ระบบปรับอากาศหลังแบบ 3 Zone พร้อมช่องแอร์หลังที่ทำงานแยกอิสระจากด้านหน้า เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารด้านหลังได้เป็นอย่างดี

ขุมพลัง 6 สูบแถวเรียง 3.0 ลิตร 387 แรงม้า คือพระเอกที่ถูกซ่อนอยู่ใต้เสื้อโปโลสีขาว

เครื่องยนต์รหัส B58 M TwinPower Turbo เทอร์โบเดี่ยวป้อนอากาศเข้าสองทางแบบ TwinScroll พร้อมด้วยลูกสูบที่มีช่วงชักยาว 94.6 มิลลิเมตรโดยมีขนาดกระบอกสูบกว้าง 82.0 มิลลิเมตร ถูกวางเรียงตามยาวกันแบบ 6 สูบ ความจุรวม 2,998 cc สร้างแรงม้าได้สูงสุดถึง 387 แรงม้าที่รอบเครื่องยนต์ 5,800-6,500 รอบต่อนาที มีแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่รอบเครื่องยนต์ตั้งแต่ 1,800 รอบต่อนาทียาวไปจนถึง 5,000 รอบต่อนาที

ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์ ZF 8 จังหวะแบบ Sport Steptronic ที่จูนอัตราทดเกียร์มาให้เหมาะกับคาแรกเตอร์ของเครื่องยนต์ชุดนี้โดยเฉพาะ แต่พอกางอัตราทดเกียร์มาดูอีกครั้งจะพบว่าเป็นอัตราทดที่เหมือนกับ BMW 330i และคล้ายกันกับ Z4 M40i เพียงแต่ Z4 จะทดเฟืองท้ายมาจัดกว่า M340i

แรงม้าทั้ง 387 ตัวนั้นถูกปล่อยลงพื้นได้แบบครบถ้วนผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ xDrive ที่กระจายแรงผ่านล้อทั้ง 4 ผ่านชุดเพลาขับร่วมกับระบบ DSC ควบคุมเสถียรภาพของตัวรถ ทำให้รถสามารถตอบสนองต่อพื้นผิวถนนและโค้ง ได้คม ฉับไว ปลอดภัย BMW ถึงขนาดเคลมว่าเป็นการปรับจูนการส่งกำลังในระดับเดียวกันกับที่คุณคาดหวังจะเจอในรถ M

แม้ M340i จะไม่สามารถเลือกล็อคให้ขับเคลื่อน 2 ล้อหรือ 4 ล้อได้แบบพี่ใหญ่อย่าง M5 แต่การปรับโหมดการขับขี่ระหว่าง Sport กับ Sport + รถก็จะปล่อยพลังระหว่างล้อหน้าและหลังในอัตราส่วนที่ต่างกันมากขึ้น โดยเฉพาะเวลาที่อยู่ในโค้งพลังของรถจะถูกปล่อยมาให้คนขับรู้สึกสนุกท้าทายแบบรถขับหลังอยู่กลายๆ แต่ก็ยังมีพลังบางส่วนถูกส่งไปยังล้อหน้าอยู่ทำให้คนขับสามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจหากไม่ได้ต้องการให้รถเสียอาการ

นอกเหนือจากระบบขับเคลื่อน xDrive แล้ว M340i ยังได้ติดตั้งเฟืองท้ายแบบ M Sport ที่จะคอยจัดการพละกำลังในขณะที่เร่งในโค้งระหว่างล้อด้านในและนอกผ่านชุดมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อให้คนขับมั่นใจได้ว่าพละกำลังทั้งหมดที่อยู่ในเครื่องยนต์จะถูกถ่ายทอดลงสู่พื้นได้ครบแม้คนขับจะเติมคันเร่งในโค้งแบบบ้าคลั่ง คนขับก็ยังสามารถคาดเดาอาการรถและคุมได้เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเราเอง

น้ำหนักตัวรถของ M340i ทั้งคันหนัก 1,670 กิโลกรัม เบากว่า 330e M Sport มากถึง 70 กิโลกรัม (330e หนัก 1,740 กิโลกรัม) และหนักว่า 320d อยู่ 140 กิโลกรัม (320d หนัก 1,530 กิโลกรัม) มาพร้อมกับช่วงล่างแบบ Adaptive M Suspension ที่สามารถปรับความแข็งอ่อนของช่วงล่างได้ตามโหมดการขับขี่แต่ล่ะประเภท

พอขับจริงบนถนน ก็ทำให้เห็นว่าแม้ M340i จะถูกพัฒนามาจากจิตวิญญาณสนามแข่ง แต่ทีมวิศวกรก็สามารถปรับจูนให้ตัวรถทั้งคันสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว ในโหมดการขับขี่แบบ Comfort ตัวรถยังคงความสบายให้กับผู้โดยสารได้เป็นอย่างดี ช่วงล่างของรถให้สัมผัสแก่คนขับในแบบที่หนักแน่น กระชับและไม่แข็งเกินไปแต่ยังคงความตึงตังไว้เล็กๆ เวลาที่ผ่านหลังเต่าที่คมตัวโช๊คอัพด้านหลังจะคืนตัวไม่เยอะพอให้รู้ว่านี่ไม่ใช่โช๊คอัพของรถบ้านธรรมดา

หากขยับความเร็วขึ้นมาบนทางด่วน การปรับไปใช้โหมดการขับขี่แบบ Sport ก็จะทำให้ช่วงล่างของรถกระชับและหนืดขึ้น พร้อมที่จะรับบทบู๊ไปกับแรงม้าทั้ง 387 ตัวแบบอยู่หมัด อาการของช่วงล่างรถในโหมด Sport จะนิ่งและมั่นหากเทียบกับ Z4 M40i เมื่อเจอลอนบั้มของพื้นถนนที่ไม่เรียบ ช่วงล่างของ M340i จะคุมอาการได้มั่นคงและนิ่งกว่า เป็นไปตามการออกแบบคาแรกเตอร์ของรถที่ Z4 จะเป็นรถขี้เล่นพร้อมท้าทายคนขับมากกว่า

เอาจริงๆ แล้วคุณสามารถพา M340i วิ่งไปบนทางด่วนเมืองไทยที่มีลอนพื้นถนนแบบไทยๆ ได้แบบมั่นใจประหนึ่งว่ากำลังวิ่งอยู่บนถนน Autobahn ทั้งในช่วงความเร็วกฎหมายกำหนดและ Top Speed ความมั่นใจไม่ลดลงเลย

โดยรวมเป็นช่วงล่างที่สามารถเอาใจทั้งคนขับและคนนั่งได้อย่างลงตัว ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าช่วงล่างของ M340i ถูกเซ็ตมาให้คนนั่งหลังสะบายมากกว่า 330i M Sport ที่เป็นช่วงล่าง M Sport ธรรมดาเสียอีก และแน่นอนว่ามันกระชับกว่าช่วงล่างของ 320d CBU ที่เป็นโช๊คธรรมดา ผมเดาว่าอาจจะมาจากน้ำหนักของตัวรถที่มากกว่าทั้งสองรุ่นข้างต้นและการปรับจูนช่วงล่าง adaptive ที่ทีมวิศวกรตั้งใจร่ายมนต์ให้ขจัดอาการโยนของตัวรถทิ้งไป ทำให้เวลาบู๊ในโค้งรถมีอาการ Body roll น้อยมาก ยิ่งได้โครงสร้างของตัวถังรถที่แข็งแรงขึ้นกว่ารุ่นก่อนและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ยิ่งทำให้ M340i พร้อมจะฉีกทุกกฎฟิสิกข์ของโค้งถนนบนโลกใบนี้

พละกำลังของเครื่องยนต์แม้จะมีกำลังมหาศาล แต่ก็ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างเป็นระเบียบ รู้ใจคนขับหากคุณพูดคุยกับรถแบบสุภาพ รถก็จะสุภาพนอบน้อมกับคุณ แต่เมื่อใดที่คุณเริ่มดุร้ายใส่คันเร่งรถของรถ รถก็พร้อมจะกลายร่างเป็นเสื้อชีต้าที่พร้อมจะกระโจนออกไปข้างหน้าและพาตัวคุณแนบไปกับเบาะรถ

ตัวเลขอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง BMW เคลมไว้ที่ 4.4 วินาที และผมก็ได้อัดคลิปสั้นๆ มาฝากคุณผู้อ่านกันเช่นเคยครับ

ผลตัวเลขที่ผมได้ทดลองจับเวลามาจัดว่าไม่ธรรมดา โดย M340i xDrive ขับคนเดียวน้ำหนัก 62 กิโลกรัม สามารถทำเวลา 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง บนถนนไทยได้เพียง 4.4 วินาที เท่านั้น ถือเป็นตัวเลขที่ตรงกับที่โรงงานเคลมไว้พอดีเป๊ะ และนับเป็นรถที่เร็วที่สุดตั้งแต่เราเปิดเว็บ Bimmer-th กันมา มันเร็วกว่า M2 ธรรมดาและยังเร็วกว่า Z4 M40i อย่างไม่น่าเชื่อ

ความสนุกที่ได้นอกจากพละกำลังที่เหลือล้นแล้ว คงจะไม่สามารถข้ามเสียงไพเราะของเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงที่คำรามแผดเผาออกมาผ่านท่อไอเสีย M Sport ที่เป็นเอกลักษณ์ของ BMW ไปได้ ชุดท่อไอเสียดังกล่าวมีวาว์ลเปิดปิดเสียงให้ดังและเบาลงตามโหมดการขับขี่ เสียงของ back fire และเสียงเปลี่ยนเกียร์พรึบๆ คุณสามารถสัมผัสได้เมื่อใช้โหมด Sport และ Sport + ทำให้ทุกครั้งที่กดคันเร่งเหมือนคุณกำลังเสพติดรสชาติของเครื่องยนต์ 6 สูบ ที่เหลือเวลาบนโลกนี้น้อยลงทุกทีจากยุคของรถยนต์ไฟฟ้า EV

พวงมาลัยไฟฟ้าแบบ variable sport steering ที่มีสามารถปรับน้ำหนักและความไวของพวงมาลัยได้ตามความเร็วของรถ เป็นพวงมาลัยที่มีน้ำหนักกว่า 3 Series ทั่วไป เป็นน้ำหนักที่กำลังลงตัวกับความไวและความคมของพวงมาลัย ทำให้สามารถวิ่งทางไกลได้แบบไม่ต้องเกร็งมือมากเกินไปแต่ก็ยังคงความสนุกเมื่อเจอโค้งบนภูเขา

บทสรุป

BMW M340i เป็นรถที่เปรียบเสมือนอาหารพรีเมี่ยมที่มีหน้าตาคล้ายอาหารจานหรูทั่วไป แต่หากคุณได้ชิมและลิ้มรสชาติเมนูจานนี้ดูซักครั้ง คุณจะพบว่าภายใต้รูปแบบจานที่ดูธรรมดามันถูกซ่อนไว้ด้วยส่วนผสมสูตรเด็ดที่เชฟซ่อนไว้มากมายและเชฟที่ดีต้องไม่เก่งแค่การเลือกสรรวัตถุดิบเท่านั้น แต่ต้องรู้จักนำเอาวัตถุดิบที่ดีมาปรุงใช้ได้อย่างชาญฉลาด เพื่อที่จะดึงรสและกลิ่นของอาหารออกมาได้ครบในแบบที่ทุกส่วนต้องลงตัวกัน

และ M340i ก็เป็นรถที่ทำให้ทุกครั้งที่คุณอยู่หลังพวงมาลัยรถ คุณจะรู้สึกเบิกบานไปกับมันเหมือนการได้ทานของอร่อยที่มีรสชาติถูกปากจนเราอยากสั่งเบิ้ลมาทานซ้ำๆ ไม่รู้จักอิ่ม มันเป็นรถที่คุณสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงและถ้าอยากสนุกไปกับมัน รถก็พร้อมจะพาคุณแล่นไปสนุกกับแรง G ในแบบมั่นใจและปลอดภัย

ผมเองไม่รู้จริงๆ ครับว่าเราจะมีโอกาสได้เห็นรถยนต์ 4 ประตู เครื่องยนต์ 6 สูบแถวเรียงที่มีแรงม้าเกือบ 400 ตัว ผนวกกับเกียร์ ZF ที่แสนฉลาดและท่อไอเสียที่ทำให้คนที่ชื่นชอบการขับรถจริงๆ ฟินได้แบบนี้ขายไปอีกนานแค่ไหน แต่อย่างน้อยสิ่งที่ผมสงสัยมาตลอดก็ได้รับคำตอบแล้ว

“ว่ารถในฝันของผมคือ BMW M340i xDrive ครับ”

ความเห็นท้ายเรื่องจากคุณเนย @noaypaul

ในบรรดารถยนต์ทุกแบบ รถที่ทำให้ผมหันมาสนใจได้มากที่สุดก็คือซีดาน แฮทช์แบค หรือทัวร์ริ่งตัวแรง เวลาที่เห็นรถพวกนี้มันทำให้ผมรู้สึกตื่นกว่ายิ่งการเจอรถไฮเปอร์คาร์ราคา 20 ล้านบาทซะอีก ส่วนนึงอาจเป็นเพราะมันใกล้เคียงกับชีวิตประจำวันของผม และนั่นก็ทำให้ผมสามารถจินตนาการเห็นตัวเองเป็นเจ้าของพวกมันได้ แต่สิ่งสำคัญที่ผมชอบให้รถมันมีสี่ประตูมากกว่านั้น ก็เพราะว่าเราจะได้ไม่สนุกกับมันเพียงคนเดียว แต่มีเพื่อน ภรรยา ลูก และครอบครัวสนุกไปกับเราได้ ถ้ารถจะเป็นพาหนะแห่งความทรงจำที่มากกว่าวัตถุติดล้อที่พาคุณเคลื่อนที่จากบ้านไปถึงจุดหมายปลายทาง มันก็ควรจะมีความทรงจำมากกว่าเพียงแค่มันกับผมเท่านั้น

BMW M340i xDrive M Sport คือรถแบบนั้นเป๊ะๆ ในโหมด Comfort มันคือซีรีส์ 3 คันนึงที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ สามารถขับไปช้อปปิ้ง ทานข้าว พบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ ได้สบาย ช่วงล่างอาจจะตึงตังกว่าซีรีส์ 3 รุ่นอื่นๆ อยู่บ้าง แต่ก็อยู่ในวิสัยที่รับได้ เครื่องยนต์และเกียร์ทำงานสุขุมและนุ่มนวล (ในชีวิตจริงคุณจะไม่เคยเห็นเข็มวัดรอบขยับเกิน 2,000 รอบ/นาที สักเท่าไหร่ เพราะแรงบิดมหาศาลระดับ 500 นิวตัน/เมตร) การจะถอยเข้าช่องจอดในห้างก็สามารถควงพวงมาลัยได้อย่างเบามือ แถมยังมีระบบ Parking Assistant Plus มาเป็นตัวช่วยด้วย และช้อปปิ้งเสร็จก็ยังใช้เท้าเตะเข้าใต้กันชนเพื่อเปิดและปิดฝากระโปรงท้ายได้เหมือนเดิม หน้าตาตัวรถก็ดูเรียบร้อยไม่เรียกแขก เพราะคนทั่วไปก็คงคิดว่ามันคือ 320d หรือไม่ก็ 330e ธรรมดา มันคือแมวเปอร์เซียที่หน้าดุแต่ขนฟูนุ่มและค่อนข้างนิ่งขรึม เป็นมิตรและไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร

แต่ขอประทานโทษครับ…ในโหมด Sport และ Sport Plus แมวเปอร์เซียของคุณจะกางเล็บพร้อมกลายร่างเป็นเสือชีต้าที่พร้อมกระโจนเข้าตะครุบเหยื่อ และผมขอรายงานด้วยความสัตย์จริงเลยว่า การจะขับด้วยความเร็วตามกฎหมายกำหนดนั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความอดทนอดกลั้นเป็นอย่างมาก หากคุณเผลอให้อารมณ์เข้าครอบงำแม้วินาทีเดียว คุณก็จะทำผิดกฎหมายไปเรียบร้อยแล้ว ความเร็ว 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้มาง่ายเกินไป และช่วงล่างกับพวงมาลัยก็ทำให้คุณมั่นใจจนเพลินจนเกินไปด้วย การที่มันเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ยิ่งทำให้คุณทำอะไรพิเรนทร์กับมันได้มากกว่าเดิมอีกต่างหาก สำหรับคนชอบขับรถ การตอบสนองของ M340i มันเหมือนสิ่งเสพย์ติด คุณจะอยากกดคันเร่งซ้ำลงไปเพื่อรู้สึกถึงแรง G ที่กดหลังคุณลงไปในเบาะกับเสียงเครื่องหกสูบเทอร์โบที่แผดกร้าว และคุณก็อยากจะชิฟท์ดาวน์ซ้ำไปซ้ำมาเพื่อฟังเสียงปุๆๆ แบบผู้ดีที่รัวออกมาจากท่อไอเสีย จะเรียกว่ามันคือ BMW M2 ที่ศิวิไลซ์ขึ้นก็คงจะได้

ข้อเสีย? บางคนอาจจะบอกว่าเป็นเรื่องช่วงล่างที่ติดอาการตึงตังอยู่หน่อย หรือภายในสีดำล้วนดูจืดสนิทเมื่อเทียบกับซีรีส์ 3 รุ่นปกติ แต่สำหรับผมแล้วคิดว่านี่คือช่วงล่างที่บาลานซ์ระหว่างการซับแรงกระแทกและการคุมม้า 389 ตัวให้อยู่หมัดที่ดีที่สุดแล้ว ส่วนภายในก็มีออพชันอัดแน่นมาให้จนเหลือล้น และที่สำคัญเวลาคุณทะยานไปข้างหน้าด้วยตัวเลข 0-100 กม./ชม. ระดับ 4.4 วินาที ก็คงจะไม่ได้มีโอกาสก้มมามองภายในสักเท่าไหร่ สำหรับผมแล้วข้อเสียของ M340i ไม่ได้อยู่ที่สมรรถนะ ช่วงล่าง หรืออะไรที่เกี่ยวกับงานวิศวกรรม คือถ้าจะให้ดี.. ช่วยติดม่านหลังมาให้สักชิ้นนึงเถิด ลูกสาวผมในคาร์ซีทจะได้ไม่แสบตา.

ปัจจุบัน BMW Thailand จำหน่าย M340i xDrive ในราคา 3,999,000 บาท (ราคาข้างต้นรวมแพคเกจ BSI Standard ข้อมูล ณ วันที่ 15/08/2021) โดยมีสีให้เลือกทั้งหมด 3 สี

  • สีดำ Black Sapphire
  • สีเทา Mineral Grey
  • สีขาว Mineral White

ขอขอบคุณ
BMW Thailand
ที่เอื้อเฟื้อรถในการทดสอบ

บทความโดย
ธิติพัทธ์ หิรัญบวรทิพย์


สงวนลิขสิทธิ์เนื้อหาถ้อยคำรูปภาพในบทความโดยผู้เขียนและเว็บไซต์ BIMMER-TH.com
กรุณาขออนุญาตก่อนนำไปใช้

The following two tabs change content below.

Thitipat Hiranbavorntip

Eat Sleep Drive // First Jobber ผู้ลุ่มหลงกับเสียงเครื่องยนต์และโค้งบนภูเขา

Comments

comments