BMW ประกาศขยายกำลังการผลิตสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ

ทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้รู้ว่าบริษัททำรถยนต์นั้นเอาจริงเอาจังกับรถยนต์ไฟฟ้ามากแค่ไหน ให้ดูว่าพวกเขายอมลงทุนที่จะปรับเปลี่ยนฐานกำลังการผลิตเดิมที่มีอยู่ให้กลายเป็นสถานที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ก็มีข่าวว่า Daimler และ Volkswagen นั้นก็กำลังเริ่มที่จะปรับเปลี่ยน และแน่นอนว่า BMW ก็เช่นกัน

ในขณะนี้ผู้ผลิตได้ออกมายืนยันแล้วว่าจะนำร่องการผลิตโดยเริ่มที่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าล้วนอย่าง MINI ในปี 2019 และ BMW X3 ในปี 2020 ซึ่ง 2 รุ่นนี้จะยังคงผลิตที่โรงงาน Leipzig ซึ่งเป็นฐานการผลิตของ BMW i3 ในปัจจุบัน แต่สำหรับโปรเจค BMW iNEXT ในรุ่นถัดไป จะถูกย้ายไปผลิตที่โรงงาน Dingolfing ในปี 2021

โดยปกติแล้วผู้ผลิตรถยนต์ทั่วไป มักจะจ้างทำชิ้นส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าจากผู้ผลิตรายอื่นๆ ตัวอย่างเช่น Chevrolet (GM) จ้างให้ LG ผลิตชิ้นส่วนที่ใช้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Chevy Bolt EV เป็นต้น แต่สำหรับ BMW นั้นแตกต่างกันออกไป โดย BMW มีเป้าหมายที่จะผลิตชิ้นส่วนด้วยตัวเองทั้งหมด!

Oliver Zipse สมาชิกคณะกรรมการบริหารของ BMW Group กล่าวว่า “BMW Group เป็นผู้ริเริ่มและสร้างสรรค์นวัตกรรมด้าน electro-mobility เราจะเริ่มผลิต BMW iNEXT ที่โรงงาน Dingolfing ในปี 2021 เพื่อเสริมความเข้มแข็งให้กับฐานการผลิตของเราในประเทศเยอรมัน ซึ่งเป็นหัวหอกให้กับโครงข่ายการผลิตทั่วโลก ด้วยความที่ Dingolfing มีศักยภาพในด้านการพัฒนานวัตกรรมที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว สำหรับในด้าน electro-mobility ความตั้งใจของเราคือการสร้างทักษะความเชี่ยวชาญภายในบริษัทตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ (end-to-end)”

ถึงแม้ว่าโรงงานจะสามารถผลิตชิ้นส่วน EVs ให้กับ BMW ในปัจจุบันได้ เช่น แบตเตอรี่แรงดันสูง หรือมอเตอร์ไฟฟ้า แต่พวกเขายังต้องลงทุนงบประมาณมากกว่า 100 ล้านยูโร (ประมาณ 3,760 ล้านบาท) เพื่อให้ได้มาซึ่งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ และยังจำเป็นต้องจ้างพนักงาน Dingolfing อีกหลายร้อยคนที่มีประสบการณ์การทํางานในด้านที่เกี่ยวข้องกับ e-mobility อีกด้วย

Dr. Andreas Wendt หัวหน้า BMW Group แห่งโรงงาน Dingolfing กล่าวเสริมว่า “Dingolfing มีประสบการณ์และความชำนาญอย่างมากในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อน จึงเหมาะสำหรับการผลิต BMW iNEXT ที่มีเทคโนโลยีใหม่ เช่น ระบบการขับขี่อัตโนมัติ (autonomous driving) และการเชื่อมต่อแบบดิจิทัล BMW iNEXT จึงเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมอย่างแท้จริง เราจึงภูมิใจที่ได้มีโอกาสสร้างรถยนต์คันนี้ที่ Dingolfing และในขณะเดียวกันในปีนี้ เราจะมีการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ของ BMW สาขาที่บาวาเรียใต้  สำหรับตัวผมแล้ว BMW iNEXT เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ และพวกเรามีความตั้งใจที่จะทำให้อีก 50 ปีข้างหน้าประสบความสำเร็จเช่นกัน”

งานนี้ BMW เอาจริงเอาจังกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มาก พร้อมกับเริ่มจัดการประชุม เพื่อบอกกล่าวให้พนักงานตระหนักถึงยุคของ EVS ที่กำลังจะมาถึงและยังคงอยู่สืบต่อไป

ที่มา electrek.co

 

 

 

 

 

 

Comments

comments