BMW โปรโมทสีพิเศษสุดคูล Hockenheim Silver Metallic ถ่ายทอดจาก BMW M2 Competition สู่ BMW S1000RR รุ่นปี 2020
คุณน่าจะเคยเห็นความสร้างสรรค์ของค่ายรถในการตั้งชื่อรถรุ่นใหม่ของพวกเขากันมาบ้างแล้ว ทั้งการจับคำในภาษาต่างๆ มาสมาสหรือสนธิออกมาเป็นคำใหม่ จนแม้แต่เจ้าของภาษาเองบางครั้งยังต้องตีความกันอยู่หลายรอบ จุดประสงค์ก็เพื่อที่จะให้ได้คำที่สะกดง่าย ติดหู และมีความหมายดี (อย่างน้อยก็ในความรู้สึกของคนตั้งชื่อ) และเพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยให้กับการแจ้งเกิดรถยนต์รุ่นใหม่ของพวกเขา แต่สำหรับค่ายรถในฝั่งยุโรปอย่าง BMW ที่ใช้รหัสตัวเลขหรือตัวอักษรในการตั้งชื่อรุ่นแทนที่จะเรียกด้วยชื่อล่ะ พวกเขาจะมีวิธีการไหนบ้าง?
คำตอบสำหรับ BMW ก็คือ “ชื่อสี” นั่นเอง คนที่อ่านโบรชัวร์อย่างละเอียดจะพบว่าสีของ BMW จะมีคำศัพท์แปลกๆ คล้ายกับชื่อเมืองหรือชื่อสนามแข่งนำหน้าอยู่เสมอ ซึ่งเราอยากบอกว่านั่นคือความตั้งใจ และถ้าคุณสังเกตให้ลึกลงไปอีกนิด ก็จะพบว่าชื่อสีโปรโมทของรถตระกูล M นั้นมักจะเป็นชื่อสนามแข่งดังๆ ทั่วโลกที่ผ่านการจัดรายการแข่งใหญ่ๆ อย่าง 24 Hours หรือ Formula One มาแล้ว มันเป็นการสื่อในทำนองที่ว่านี่คือรถที่จะถ่ายทอดจิตวิญญาณและดีเอ็นเอของรถตระกูล M เวอร์ชันแข่งในสนามมาสู่รถตระกูล M เวอร์ชันถนนแบบไม่มีสิ่งเจือปนใดๆ ทั้งสิ้น แต่ที่ผ่านมาสีพิเศษพวกนี้ก็จะมีเฉพาะเจาะจงสำหรับรถแต่ละรุ่น และทำออกมาเป็นเวลาจำกัดเท่านั้น ทว่าวันนี้ BMW ได้ถ่ายทอดมายังบิ๊กไบค์อย่าง BMW S1000RR รุ่นปี 2020 ด้วย สร้างความน่าทึ่งให้กับโรงรถบ้านไหนที่มี BMW ทั้งสองและสี่ล้อจากคู่กันให้ทะลุเพดานขึ้นไปอีก
แต่ไหนๆ เราก็จะมาพูดกันเรื่องชื่อสีของ BMW M กับสนามแข่งอยู่แล้ว Bimmer-th ก็เลยขอพาแฟนพันธุ์แท้ BMW ทุกท่านไปชมชื่อสีในอดีตสำหรับรถตระกูล M ที่มาจากสนามแข่งเด็ดๆ กันให้หายอยาก ลองมาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง!
1. Hockenheim Silver metallic
สีแรกคงจะไม่มีใครเดาผิด เพราะมันคือ “สีเทาฮ็อกเคิ่นไฮม์เมทัลลิค” ต้นเรื่องของบทความนี้ BMW เอาชื่อมาจากสนามแข่ง Hockenheimring ระดับหัวแถวของประเทศเยอรมนี ซึ่งจัดแข่งขัน Formula One German Grand Prix มาตั้งแต่ปี 1970 โดยในช่วงแรกจะเป็นการจัดสลับกันไปมากับสนามนรกเขียว Nürburgring หรือ Green Hell ที่คนบ้ารถทุกคนฝันจะได้เหยียบมันสักครั้งก่อนตาย ก่อนที่จะปรับมาที่ Hockenheim เพียงอย่างเดียวในช่วงหลัง และล่าสุดก็เพิ่งจะจัดแข่ง Formula One ไปเมื่อฤดูกาล 2019 หรือราวหนึ่งปีเศษที่ผ่านมานี้เอง สีเทา Hockenheim Silver Metallic ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกกับ BMW M2 F87 Competition ในปี 2018 ก่อนที่จะขยายไปสู่ BMW M8 Competition Gran Coupé, BMW M2 CS และล่าสุดบิ๊กไบค์ BMW S1000RR ปี 2020
2. Portimao Blue metallic
สีน้ำเงินปอร์ติเมาเมทัลลิค ตั้งชื่อตามสนามแข่ง Algarve International Circuit ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม “ปอร์ติเมา” ที่ตั้งอยู่ในประเทศโปรตุเกส ถือว่าเป็นสนามน้องใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จในปี 2008 และถูกใช้เป็นสนามทดสอบรถ Formula One ควบคู่กับ Bahrain ในปี 2020 มันได้รับเลือกให้ใช้จัดแข่ง Formula 1 Portuguese Grand Prix เป็นครั้งแรกเนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 ทำให้นี่เป็นการหวนคืนของ Formula One สู่โปรตุเกสตั้งแต่ปี 1996 ที่จัดขึ้นที่สนามเอสโตริล BMW นำชื่อสนามแห่งนี้มาใช้เป็นสีเปิดตัวกับ BMW 3 Series G20 M Sport และนำไปใช้กับ BMW M3 G80 และ BMW M4 G82/G83 ด้วย
3. Marina Bay Blue metallic
สีน้ำเงินมาริน่าเบย์เมทัลลิค สีตัวเจ็บเอกลักษณ์ประจำ BMW M5 F90 ตัวปัจจุบันที่เปรียบเสมือนอาวุธหนักจาก BMW M GmbH ด้วยพละกำลังที่สูงสุดที่ในรถ M เวอร์ชันถนน (600 แรงม้า) และการใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นครั้งแรกที่ทำให้มันปั่นโดนัทรอบรุ่นพี่ M5 ได้ทั้งวี่ทั้งวันจนกระทั่งยางเป็นผุยผง ส่วนสนามมาริน่าเบย์เซอร์กิตนั้น เป็นสนามที่ใช้ถนนจริงกลางเมืองประเทศสิงคโปร์ และเป็นสนามแข่ง Formula One แห่งเดียวในตารางปฏิทินที่จัดแข่งตอนกลางคืน
4. Yas Marina Blue metallic
สีฟ้า ยาส มาริน่า เมทัลลิค ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกกับ BMW M3 F80 และ BMW M4 F82/F83 ซึ่งทำให้บุคลิกของ M3 บนพื้นฐานของ BMW 3 Series F30 นั้นดูโดดเด่นขึ้นมาอย่างสุดๆ จนเป็นสีพระเอกที่ปรากฏอยู่ในแทบทุกนิตยสารหรือคลิปทดสอบจากสื่อทั่วโลก ส่วนสนามยาสมาริน่าเซอร์กิตนั้น ตั้งอยู่ที่อาบูดาบีห์ ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มันเป็นสนามแข่ง Formula One แห่งที่สองในทวีปตะวันออกกลางต่อจาก Bahrain และปัจจุบันยังใช้จัดแข่ง Formula One อยู่
5. Monte Carlo Blue metallic
สีฟ้ามอนติคาร์โลเมทัลลิค ใช้ชื่อเมืองมอนติคาร์โลซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามแข่งชื่อดังและมีเอกลักษณ์มากที่สุดแห่งนึงในโลกอย่าง Circuit de Monaco โมนาโคเป็นสนามแข่งที่ใช้ถนนในเมือง มีลักษณะเป็นเส้นทางที่คดเคี้ยว แคบ และไม่มีพื้นที่รันออฟข้างสนามไว้เผื่อพลาดแม้แต่หนึ่งเซ็นติเมตร จุดเด่นอีกอย่างของสนามนี้คือวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจากบนเขา ซึ่งจะทำให้เห็นทะเลและเรือยอร์ชเรียงรายเทียบท่าอยู่ ท่ามกลางฉากหลังที่เป็นเสียงเครื่องยนต์ Formula One ที่กำลังปั่นจี๋ด้วยรูปสูงเฉียด 15,000 รอบ/นาที น่าแปลกที่พอมาถึงตัวเลือกของชื่อสนามนี้ BMW กลับใช้มันเป็นสีแนะนำใน BMW X5 M E70 ซึ่งไม่น่าจะคล่องแคล่วในถนนเล็กๆ แบบนี้ได้เลย
6. Sepang Bronze metallic
สีทองเซปังเมทัลลิค ตั้งชื่อตามสนามแข่ง Sepang International Circuit ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งใช้จัดแข่งขัน Formula One Malaysian Grand Prix ระหว่างปี 1999 – 2017 BMW นำสีนี้มาใช้กับ BMW M5 E60 เป็นครั้งแรกในปี 2004 และยังใช้มันเป็นสีเปิดตัวของ BMW M6 E64 อีกด้วย
7. Interlagos Blue metallic
สีน้ำเงินอินเตอร์ลากอสเมทัลลิค ตั้งชื่อตามสนามแข่ง Autodromo de Interlagos ในประเทศบราซิล ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อมาเป็น Autódromo José Carlos Pace เพื่อระลึกถึง Carlos Pace นักแข่ง F1 ชาวบราซิลที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินในปี 1977 มันถูกเริ่มใช้แข่ง Formula One มาตั้งแต่ปี 1973 และมีเว้นไปในช่วง 1978 และ 1981-1989 ก่อนที่จะกลับมาจัดทุกปีจนถึงปัจจุบัน BMW นำสีนี้มาใช้เป็นสีเปิดตัวของ BMW M3 E46 Competition กับ BMW M5 E61 และนำไปใช้กับรถอีกหลายรุ่นก่อนจะหยุดผลิตไปในปี 2013
8. Silverstone metallic
สีเงินซิลเวอร์สโตนเมทัลลิค ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกใน BMW M5 E39 ก่อนที่จะปรับเฉดสีให้ทันสมัยขึ้นอีกนิดเป็น Silverstone 2 metallic เพื่อใช้กับ BMW M5 E60 สนามซิลเวอร์สโตนเป็นสนามแข่งรถที่เก่าแก่ของประเทศอังกฤษ ซึ่งงานแข่งครั้งแรกของมันในปี 1948 ก็คือ British Grand Prix และหลังจากสลับเปลี่ยนหมุนเวียนไปกับสนามอื่นๆ Silverstone ก็กลับมาเป็นส่วนหนึ่งของตารางแข่งขัน Formula One ในปี 1987 จนมาถึงปัจจุบัน
9. Imola Red
สีแดงอิโมล่า แฟน F1 ก็คงจะรู้สึกขนลุกทุกครั้งที่ได้ยินชื่อ Imola เพราะมันเป็นสถานที่ซึ่งคร่าชีวิตนักแข่ง F1 ดาวรุ่งสัญชาติบราซิลอย่าง Ayrton Senna ด้วยอุบัติเหตุขณะเข้าโค้ง Tamburello ด้วยความเร็วสูงถึง 309 กิโลเมตร/ชั่วโมง เนื่องจากรูปแบบสนามก่อนจะมาถึง Tamburello ที่เป็นทางตรงยาวเกือบครึ่งของความยาวสนาม ซึ่งเจ้าทางตรงนี้แท้จริงแล้วมันก็ไม่ได้ตรง เนื่องจากมีลักษณะโค้งซ้ายเล็กน้อยแฝงไปตลอดทาง ส่วนอีกด้านหนึ่ง Imola คือสนามที่ Ralf Schumacher ขับ BMW Williams F1 เข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่งได้เป็นครั้งแรกในอาชีพของเขา BMW เคยทดลองทำสีแดงอิโมล่าเวอร์ชันแรกออกมาใช้กับ BMW Z3 E36/7 รุ่น pre-production แต่ไม่เคยผลิตออกขายจริง ส่วน BMW สีแดงอิโมล่าที่คุณเห็นบนถนนนั้นคือ Imola Red 2 ในปี 2015 ต่างหาก
10. Estoril Blue metallic
สีฟ้าเอสโตริลเมทัลลิค ที่แฟน BMW มักจะคุ้นตา เพราะหลังจากออกเวอร์ชันแรกมาใน BMW M3 E36 เมื่อปี 1995 แล้ว ก็นำไปใช้กับรถอีกหลายรุ่น และมีการอัพเดทเฉดสี Estoril Blue ใหม่ออกมาในสมัย BMW 3 Series F30 กับรถอีกหลายรุ่นที่ขายอยู่ในช่วงปี 2017 จนนับไม่หวาดไม่ไหว ส่วนสนาม Estoril หรือ Autódromo do Estoril นั้นตั้งอยู่ในประเทศโปรตุเกส และใช้จัดแข่ง Formula One Portuguese Grand Prix ในช่วงปี 1984-1996
11. Mugello Red
สีแดงมูเจลโล่ ตั้งชื่อตามสนาม Mugello Circult (Autodromo Internazionale del Mugello) ในเมืองทัสคานี ประเทศอิตาลี โดยเจ้าของสนามก็คือ Scuderia Ferrari ซึ่งใช้เป็นที่ทดสอบรถ F1 ของพวกเขา แต่มูเจลโล่เพิ่งจะได้เคยจัดการแข่ง Formula One เป็นครั้งแรกในปี 2020 ด้วยสถานการณ์ Covid-19 ที่ทำให้แผนการและสนามในตารางแข่งเดิมต้องปรับเปลี่ยนกันใหม่หมด สีแดงมูเจลโล่ถูกนำมาใช้ครั้งแรกใน BMW M3 E36 ปี 1992 และมันยังมีใน BMW M5 E34 อีกด้วย ก่อนที่จะหยุดผลิตไปในปี 1994
12. Sebring Grey metallic (229)
สีเทาเซบริงเมทัลลิค ตั้งชื่อตามสนาม Sebring International Raceway ในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา มันเป็นสนามที่เก่าแก่ที่สุดแห่งนึงของสหรัฐฯ การแข่งครั้งแรกที่สนามนี้เกิดขึ้นในปี 1950 ด้วยรายการ Sam Collier 6 Hour Memorial race และเคยจัด Formula One ครั้งแรกของสหรัฐฯ ในปี 1959 ซึ่งหลังจากนั้น F1 ก็ไม่เคยกลับมาจัดที่สนามนี้อีกเลย ส่วนสีเทาเซบริงเมทัลลิคนั้นเปิดตัวใน BMW M5 E34 ปี 1988 ก่อนที่จะเลิกผลิตไปในปี 1992
ต้องบอกว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของชื่อสีที่มีที่มาที่ไปจากสนามแข่งของ BMW เท่านั้น เพราะหากจะเขียนให้ครบทุกสีตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน พื้นที่สำหรับหนึ่งบทความก็คงไม่น่าจะพอ น่าเสียดายที่ทุกวันนี้ BMW ไม่ได้ส่งทีมเข้าร่วมแข่ง Formula One แล้ว และหันไปเอาดีกับรถแข่งไฟฟ้าอย่าง Formula E แทน แต่เราก็ยังหวังอยู่เสมอว่าวันนึงจะได้เห็น BMW กลับมาโลดแล่นในสนามแข่ง Formula One และเป็นคู่ปรับตัวฉกาจที่สามารถท้าทายบัลลังก์แชมป์ 7 สมัย ของคู่แข่งจากสตุตการ์ทได้อย่างสมศักดิ์ศรี แม้ว่าเราจะยังไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่มันถึงจะเกิดขึ้น หรือมันจะมีโอกาสเกิดขึ้นอีกไหมก็ตาม แต่พอได้ทราบที่มาที่ไปของชื่อสีและประวัติของสนามแข่งแต่ละที่แล้ว ชื่อสีของ BMW M ทั้งหลายมันจึงช่างดูขลังและมีเสน่ห์ขึ้นมาอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว และต่อไปนี้ชื่อสีจะเป็นอีกจุดที่ได้รับความสนใจจากเราอย่างแน่นอน
