ใช่ครับ…มันคือ M8 ที่อ่านว่า “เอ็ม-แปด” ซึ่งไม่ใช่ BMW M850i xDrive Coupé ที่เปิดตัวในประเทศไทยกันไปในเดือนพฤศจิกายนที่แล้ว มันมีกำหนดจะคลอดจาก BMW M GmbH ราวเดือนหน้า ซึ่งก็คงจะเป็นที่โรงพยาบาล M Hospital โดยหมอ M Doctor ในเขต M Town ที่ตั้งอยู่บนก้อนเมฆ (Cloud) ในโลกออนไลน์ที่ไหนสักที่นั่นล่ะ…
แต่ BMW M8 ไม่ใช่แค่เพียงการนำ BMW 8 Series มาขุนพละกำลังเพิ่มให้แรงระเบิดเถิดเทิงจนสามารถไล่ฆ่าซูเปอร์คาร์ราคาแพงกว่าสองเท่าได้พร้อมกับติดป้ายตัวอักษร M เข้าไปข้างหน้าเลขอนุกรมเท่านั้น เพราะธรรมเนียมปฏิบัติของ BMW M ยุคใหม่ตั้งแต่ BMW M5 F90 เป็นต้นมา สมาชิกใหม่ของตระกูลจะต้องมาพร้อมกับเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยที่ไม่เคยปรากฏใน BMW รุ่นไหนมาก่อนด้วย
New M Mode
ในส่วนของ BMW M8 จะเป็นโหมด M แบบใหม่ล่าสุดที่ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรก โดยการแทนที่สวิทช์ Driver Experience Control ที่เป็น Sport, Comfort, ECO Pro และ Adaptive แบบเดิมที่จะยังคงถูกใช้งานต่อไปใน BMW รุ่นอื่นๆ ด้วยปุ่ม “M Mode”, “SETUP”, และปุ่มควบคุม Flap ในท่อไอเสีย พร้อมกับการเปลี่ยนค่า Settings ต่างๆ กับชื่อโหมดใหม่หมด ทำให้คนขับสามารถใช้ปุ่ม M Mode ในการปรับหน้าตาอินโฟกราฟฟิคที่แสดงบนเรือนไมล์, Head-up display, จอควบคุมกลาง และระดับการทำงานของระบบช่วยเหลือต่างๆ ได้อิสระจากการปรับโหมดของเครื่องยนต์และเกียร์ พวงมาลัย ช่วงล่าง และเบรก ที่จะทำผ่านปุ่ม SETUP
M Mode ใน BMW M8 จะมีด้วยกัน 2 โหมด คือ ROAD กับ SPORT ในขณะที่รุ่น BMW M8 Competition จะได้โหมด TRACK เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งโหมด ซึ่งเข้าถึงได้ด้วยการกดปุ่ม M Mode แช่เอาไว้พร้อมกับคอนเฟิร์มด้วยปุ่มโรตารี iDrive อีกหนึ่งครั้ง ในโหมด ROAD ระบบช่วยเหลือการขับทุกระบบไม่ว่าจะเป็น Adaptive cruise control, Lane departure warning และอื่นๆ จะเปิดการทำงานไว้ทั้งหมด กดปุ่ม M Mode หนึ่งครั้งเพื่อเข้าสู่โหมด SPORT ซึ่งจะปิดระบบช่วยเหลือการขับไปเกือบทั้งหมด ยกเว้นการแจ้งเตือนเรื่อง Speed limit กับเวลาที่เข้าสู่โซนห้ามแซง กับระบบ Collision warning และ Evasion Assistant เท่านั้น มาตรวัดก็จะเปลี่ยนมาแสดงผลแบบ M View ที่มีข้อมูลเท่าที่จำเป็นกับการขับแบบสปอร์ต อย่างรอบเครื่องยนต์ ตัวเลขความเร็วดิจิตอล ตัวเลขบอกตำแหน่งเกียร์ อุณหภูมิน้ำหล่อเย็น แรงดันบูสต์ อุณหภูมิลมยาง กับแรง G
โหมด TRACK ถูกดีไซน์มาเพื่อใช้ในสนามแข่งเท่านั้น ระบบช่วยเหลือต่างๆ จะถูกปิดการทำงานไปทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่เครื่องเสียงกับหน้าจอควบคุมบนคอนโซลกลางที่จะปิดตัวลงไป และระบบ iDrive ที่ถอยฉากไปอยู่ในโหมด Stand by เพื่อให้สมาธิในทุกอณูของคนขับถูกเพ่งไปที่ถนนข้างหน้า ซึ่ง BMW M บอกว่าจะทำให้คุณรู้สึกว่ากำลังควบ BMW M8 GTE อยู่ในรายการแข่ง GT และเอ็นดูรานซ์ 24 ชั่วโมง ก็ไม่ปาน
ส่วนปุ่ม SETUP ที่ใช้ปรับโหมดการตอบสนองของเครื่องยนต์และเกียร์ พวงมาลัย และช่วงล่าง ก็จะมีการตั้งค่า “เบรก” ระหว่าง Comfort กับ Sport เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งอย่าง ซึ่ง BMW เรียกมัน M-specific หรือออพชันที่สงวนไว้ให้กับรถ M เท่านั้น สาเหตุที่สามารถตั้งค่าเบรกได้ก็เพราะ BMW ได้นำระบบเบรกแบบใหม่มาใช้กับ BMW M8 ซึ่งรวมตัวกระตุ้นเบรก ตัวช่วยเพิ่มแรงเบรก และฟังก์ชันการควบคุมแรงเบรกเอาไว้ในกล่องโมดูลเล็กๆ ซึ่งช่วยลดน้ำหนักไปจากระบบเบรกแบบเดิมได้ 2 กิโลกรัม จากการที่ไม่ต้องมีหม้อลมระบบสุญญากาศ โดยแรงดันน้ำมันเบรกจะถูกคุมด้วยชุดปั๊มไฟฟ้าที่มีไดนามิกส์ในการปรับตั้งการทำงานมากกว่า แถมยังตอบสนองได้ไวและคงเส้นคงวากว่าหม้อลมแบบสุญญากาศแบบเดิม โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ถนนเปียกแฉะ มีแรงเหวี่ยงไปทางด้านข้าง หรือตอนที่เบรกร้อนจัด ทำให้คนขับคุมแรงเบรกได้โดยไม่ต้องปรับตัวไปๆ มาๆ
โหมดเบรกระหว่าง Comfort กับ Sport จะเป็นการตั้งค่าน้ำหนักแป้นเบรกที่ต่างกัน ในโหมด Comfort แป้นเบรกจะเบาสบายเท้าเหมาะสำหรับการขับบนถนนปกติ แต่ในโหมด Sport แป้นเบรกจะมีน้ำหนักมากขึ้น พร้อมกับการตอบสนองที่ว่องไวขึ้นเมื่อแตะเบรก ซึ่งเหมาะกับการขับในสนามแข่งมากกว่า
ถ้ายังไม่เห็นภาพเรามีวีดิโอจาก BMW M มาให้ชมกันครับ
BMW M8 มีกำหนดเปิดตัวในเดือนมิถุนายน 2019 นี้ แต่จะเปิดตัวที่ประเทศไทยและมีโควต้าส่งมาเท่าไหร่ ยังคงต้องรอติดตามกันต่อไป
ที่มา: BMW M YouTube Channel, BMWBLOG

