BMW Group ไว้อาลัยต่อการจากไปของ Paul Rosche

 

วันนี้ BMW Group แถลงข่าวถึงการเสียชีวิตของ Paul Rosche วิศวกรคนสำคัญของบริษัท ผู้อยู่เบื้องหลังผลงานวิศวกรรมหลากหลายชิ้น รวมถึงเครื่องยนต์ของ BMW M3 E30 รุ่นดังในตำนาน และยังเป็นผู้ผลักดัน BMW เข้าสู่การแข่งขัน Formula One มากถึงสองครั้ง โดย Paul Rosche เสียชีวิตด้วยอายุ 82 ปี ที่บ้านพักของเขาในเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมัน ในวันอังคารที่ 15 พ.ย. 2559 ตามเวลาท้องถิ่น

Jens Marquardt ผู้อำนวยการแผนก BMW Motorsport กล่าวว่า “พวกเราทุกคนรู้สึกเสียใจเมื่อได้รับทราบข่าวนี้” เขายังกล่าวต่อว่า “Paul Rosche เป็นผู้ที่สร้างบุคลิกให้กับบริษัทและแบรนด์ BMW ด้วยความกระตือรือร้น วิสัยทัศน์ และความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคที่เขาสั่งสมจากประสบการณ์ในสนามแข่งมาเป็นเวลาหลายสิบปี ผลงานแต่ละชิ้นของเขามันเป็นความสำเร็จและความก้าวหน้าทางวิศวกรรมไปอีกขั้น การจากไปของ Paul Rosche เท่ากับเป็นการสูญเสียความเป็นของ BMW Motorsport และ BMW M ไปด้วย เขาเป็นคนที่เปลี่ยนนิยามของคำว่าข้อจำกัดและความเป็นไปได้ทางเทคนิคอยู่ตลอดเวลา เราจะสืบสานจิตวิญญาณของเขาต่อไปที่ BMW Motorsport และเราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังครอบครัวและมิตรสหายของเขา”

42 ปีของชีวิตการทำงานที่ BMW

Paul Rosche เข้าทำงานที่ BMW หลังจากจบการศึกษาในปี 1957 ก่อนที่จะย้ายมาประจำที่ BMW Motorsport GmbH ในปี 1975 ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายออกแบบเครื่องยนต์ BMW M1 ทั้งเวอร์ชันถนนและสนาม โดยเขารับหน้าที่ด้านวิจัยและพัฒนาเป็นหลัก ช่วงปี 1969 เขาออกแบบและพัฒนาเครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 2 ลิตร ที่คว้าชัยชนะ European Touring Car Championship มาให้ BMW ได้สำเร็จ

ในปี 1980 Rosche ในฐานะกรรมการผู้จัดการฝ่ายเทคนิค BMW Motorsport GmbH จับมือกับ Dieter Stappert เพื่อวางรากฐานให้ BMW เข้าร่วม Formula One เป็นครั้งแรก เขายังเป็นบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเครื่องยนต์ BMW หลายตัวในยุคเทอร์โบเฟื่องฟู ทีมของ Rosche ลงมือปรับแต่งเครื่องสี่สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ จนมีศักยภาพมากพอที่จะต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งแชมป์โลก F1 ได้ เครื่องยนต์เป็นแบบ 16 วาล์ว เทอร์โบ และใช้ระบบอิเลกทรอนิกส์ควบคุมเป็นครั้งแรก สามารถผลิตพละกำลังได้สูงถึง 800 แรงม้า รถแข่ง Brabham BMW เปิดตัวในสนามครั้งแรกเมื่อปี 1982 แต่เพียงไม่ถึงสองปีให้หลัง มันก็คว้าตำแหน่งแชมป์โลกมาได้สำเร็จ จนมาถึงปี 1987 เครื่องเทอร์โบของเขาก็สามารถคว้าแชมป์รายการกรังด์ปรีซ์มาได้แล้วถึง 9 ครั้ง และยังมีแนวโน้มที่สามารถแข่งต่อไปได้อีกหลายปี มีคนเคยถาม Rosche ว่าเครื่อง F1 ผลิตแรงม้าได้สูงสุดเท่าไหร่ เขาตอบกลับมาว่า “มันคงต้องมีสักประมาณ 1,400 แรงม้า เราก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะแท่นไดโนวัดได้สูงสุดแค่ 1,280”

Rosche กับ BMW M3 และ BMW V12 LMR

ชัยชนะจาก Formula One ย่อมเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น แต่นั่นไม่ใช่เรื่องราวความสำเร็จเพียงอย่างเดียวของผู้ที่มีความเป็นวิศวกรในสายเลือดนับแต่กำเนิดในปี 1934 เครื่องยนต์ตัวอื่นที่ผ่านการพัฒนาด้วยฝีมือของ Rosche ก็ประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน เช่น เครื่อง 4 สูบ 16 วาล์ว 2.0 ลิตร ที่ชนะการแข่งขันมาแล้วไม่ต่ำกว่า 150 ครั้ง และได้ขึ้นโพเดียมในรายการ Formula 2 European Championship 6 ครั้ง หรือเครื่อง 6.0 ลิตร V12 ที่ชนะรายการ Le Mans ในปี 1995 และ 1999  นอกจากนี้ Rosche ยังอยู่เบื้องหลังการพัฒนาเครื่องยนต์ให้ BMW M3 E30 รุ่นแรก ซึ่งกลายมาเป็นแบบอย่างให้กับรถแข่ง Touring car ทั่วโลกและรถถนนตัวแรงขับสนุกมาจนถึงปัจจุบัน

พวกเราที่ Bimmer-th ขอร่วมแสดงความเสียใจต่อการจากไปของ Paul Rosche ในครั้งนี้

 

The following two tabs change content below.
มนุษย์เงินเดือนผู้คลั่งไคล้ในรถยนต์สมรรถนะยอดเยี่ยม นักแข่งรถสมัครเล่นที่มักจะพบเห็นวิ่งดมฝุ่นอยู่ท้ายสนาม คุณพ่อของลูกสาวที่น่ารัก และหนึ่งในทีมงาน Bimmer-th.com

Comments

comments