พาชม! BMW ใหม่ใน Bangkok Motor Show 2018 มาครบทั้ง X2, M5, M4 CS และ 530i Touring

กลับมาสู่ช่วงเวลาแห่งมหกรรมยานยนต์กันอีกครั้ง กับงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 39 ประจำปี 2018 โดยกำหนดการจัดงานในครั้งนี้ คือระหว่างวันที่ 28 มีนาคม – 8 เมษายน โดยเริ่มงานโชว์ตั้งแต่เวลา 12.00 น. – 22.00 น. ที่ Impact Challenger เมืองทองธานี โดยธีมของงาน BIMS2018 ครั้งนี้คือ Revolution in Motion – ปฏิวัติทุกการเคลื่อนไหว 

ภายในงาน ทุกท่านจะได้พบกับยนตรกรรมระดับพรีเมียมจาก BMW อย่างเต็มรูปแบบถึงใจ ซีรีส์ 3, 5, 7, ตระกูล X และตระกูล i และพลาดไม่ได้กับตระกูล M Cars ตัวแรง โดยมีรถบางรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้และรถที่เผยโฉมในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันมาหลายคัน รวมถึงรถที่ยังไม่เคยนำมาจัดแสดงในงานใดๆมาก่อน คุณสามารถหาพบได้ที่นี่

ไม่ว่าคุณจะชอบรถ BMW ในฝันประเภทราคาเกินสิบล้านบาท หรือมองโลกแห่งความจริงกับรถ BMW รุ่นเริ่มต้น ที่ถูกด้วยราคาแต่สูงด้วยความเพลิดเพลินในการขับขี่ตามสไตล์ BMW งาน BIMS2018 มีคำตอบให้กับทุกคนที่ชื่นชอบในแบรนด์ใบพัดฟ้าขาว และเช่นเคยกับอิสระในการเลือกทางการเงิน BMW Freedom Choice ที่ช่วยให้การตัดสินใจเป็นเจ้าของ BMW ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อน สามารถสอบถามรายละเอียดกับเซลส์คนที่ท่านปลื้ม (มีเยอะแยะ) ได้ตามอัธยาศัย

เอาล่ะ ผมจะพาพวกท่านไปดูรถ BMW ที่เป็นไฮไลท์ของงานนี้ ตามมาเลยครับ

BMW X2 sDrive20i M Sport X
ราคาจำหน่ายรวม BSI Standard 2,999,000 บาท

ใหม่ล่าสุด สดที่สุดสำหรับงานนี้ คือ X2 ซึ่งทาง BMW ให้คำนิยาม X2 ว่าเป็น SAC-Sports Activity Coupe อันหมายถึงรถครอสโอเวอร์ที่สามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ แต่ใช้รูปทรงที่มีแรงบันดาลใจจากรถคูเป้หลังคาเตี้ยเข้ามา ทำให้สามารถจับตลาดที่แตกต่างจาก X1 ลดภาพลักษณ์ความเป็นรถครอบครัวลง เพิ่มดีกรีวัยรุ่นมากขึ้น

ไฮไลท์ทางด้านการออกแบบที่เห็นได้ชัดที่สุดจากด้านหน้าก็คือทรวดทรงของกระจังหน้าแบบไตคู่ ซึ่งโดยปกติ BMW มักทำส่วนบนของกระจังให้กว้างกว่าด้านล่าง แต่กับ X2 แล้วจะกลับกัน ถือว่าเป็นดีไซน์มาแนวใหม่ และเป็นรถรุ่นแรกของทางค่ายที่ใช้กระจังบานล่างแบบนี้ แล้วยังมีการปะโลโก้ BMW ที่เสา C-Pillar เป็นเอกลักษณ์เด่นเพราะ BMW ไม่เคยทำแบบนี้มานานมากแล้ว

X2 สเป็คที่ BMW Thailand นำเข้ามา จะมีเพียงรุ่นเดียวคือ sDrive20i M Sport X โดย sDrive20i นั้นก็หมายถึงการใช้เครื่องยนต์ TwinPower Turbo เบนซิน 4 สูบพร้อมเทอร์โบแปรผัน จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด Direct Injection ขนาดความจุ 2.0 ลิตร ให้พลังสูงสุด 192 แรงม้าที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตรตั้งแต่ 1,350-4,600 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์คลัตช์คู่ 7 จังหวะ Steptronic DCT ที่ BMW เพิ่งพัฒนามาใหม่สดๆ สำหรับรถเครื่องยนต์วางขวางแบบเบนซิน X2 เป็นรุ่นแรกที่ได้ใช้เกียร์แบบนี้

ส่วนการตกแต่งแบบ M Sport X นั้น จะบวกมาดความเป็นสปอร์ต เข้ากับมาดลุยแบบเซอร์ๆ ซึ่งในการตกแต่งแบบนี้ จะใช้กันชนหน้า/หลังแบบ M Sport กาบข้างสี Frozen Grey ตัดกับตัวรถ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว เพิ่มสปอยเลอร์หลัง ภายในสีดำ เบาะ M Sport ปรับรองน่องได้ ตัวเบาะหุ้มด้วยผ้าลายหกเหลี่ยมสลับ Alcantara เย็บตะเข็บสีเหลือง วัสดุตกแต่งสีเงินอะลูมิเนียม Hexagon สลับกับสีมุก Chrome Pearl Effect

MW X2 ใหม่จะมาพร้อมกับหน้าปัดแบบ Black Panel เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และสำหรับคนที่ชอบแสงสี BMW ยังมีออพชั่น Lighting Package ให้เลือกสั่ง โดยแสงไฟตกแต่งห้องโดยสารชุดนี้จะลากยาวจากบริเวณแดชบอร์ดไปจนถึงแผงประตู เหมือนเป็นวงแหวนเรืองแสงรอบห้องโดยสารยาวไปถึงข้างหลัง และทำให้ชุดควบคุมและจอ iDrive ดูเหมือนลอยออกมา มีมิติมากขึ้นในยามค่ำคืน เมื่อสั่งแพ็คเกจนี้แล้ว ลูกค้าก็ยังสามารถปรับสีภายในได้ 6 สี คือ ส้ม, Lilac, Mint, ทองแดง, น้ำเงิน และขาว

นอกจากนี้ X2 สเป็คไทยยังมีหลังคาแบบ Panoramic Glass Roof 2 ส่วน เปิด/ปิดด้วยระบบไฟฟ้า มีเบาะไฟฟ้าพร้อมระบบความจำที่ฝั่งคนขับ หน้าจอ Control Display ขนาด 8.8 นิ้ว, ปุ่มควบคุม iDrive พร้อมระบบสัมผัส, ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่ที่กระจกหน้าฝั่งคนขับ (BMW Head-Up Display), วิทยุพร้อมการเชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth และ ช่อง USB และ แท่นสำหรับอุปกรณ์เสริม

BMW M5
ราคาจำหน่ายรวม BSI Standard 13,339,000 บาท

คงไม่ต้องถามหารุ่นพิเศษอย่าง First Edition ราคา 14,939,000 บาท ที่มาแล้ว..แล้วหมดไปเลย เพราะลำพัง M5 รุ่นมาตรฐาน..ก็เกินมาตรฐานของยานยนต์วันนี้ส่วนใหญ่ไปมากแล้ว นี่คือคำตอบสำหรับคนที่ต้องการลูกผสมระหว่างพรีเมียมซีดานแบบผู้ใหญ่เข้ากับพละกำลังมหาศาล มากกว่าซูเปอร์คาร์กับแกรนด์ทัวร์เรอร์หลายรุ่น

อาวุธอันร้ายกาจของ M5 คือเครื่องยนต์ V8 4.4 ลิตร เทอร์โบคู่ ออกแบบท่อร่วมไอเสียแบบ Cross-bank เพื่อให้เครื่องยนต์ V8 ที่มีข้อเหวี่ยงแบบ Cross-plane (มองข้อเหวี่ยงจากด้านหน้าจะเห็นเป็นทรง “+”) สามารถคายไอเสียได้โดยที่ไม่ชนกันในแต่ละลูกสูบ มันมีแรงม้ามากถึง 600 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 จังหวะ “M Steptronic” (เลิกใช้คลัตช์คู่แล้ว) อีกทั้งยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ M xDrive ที่ช่วยให้ M5 ดีดออกตัวไปถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 11.1 วินาที แน่นอน รถระดับนี้เขาไม่เอา 0-100 มาพูดกันให้เสียเวลา

ลูกเล่นของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ M xDrive นี้ยังมีอีก การที่มันสามารถปรับลักษณะการส่งกำลังระหว่างหน้า/หลัง และควบคุมการส่งแรงขับซ้าย/ขวาได้ด้วยระบบ Torque Vectoring ทำให้ผู้ขับสามารถเลือกได้ว่าต้องการให้รถมีนิสัยการตอบสนองแบบไหนเวลาเข้าโค้ง เช่นโหมด 4WD ปกติ กระจายแรงขับแบบทั่วถึง รถจะพยายามรักษาอาการหน้าและท้ายที่วิ่งไปตามโค้งอย่างเนียน ให้คนขับเข้าโค้งแรงๆได้โดยไม่รู้สึกพยศ ส่วนโหมด 4WD Sport ก็จะถ่ายกำลังไปล้อด้านหลังมากขึ้น เมื่อกดคันเร่งในขณะอยู่ระหว่างโค้ง จะมีอาการท้ายออกได้ง่ายขึ้น แต่ออกไม่มาก แก้อาการไม่เยอะ ทำให้รถวิ่งไปได้เร็ว และสนุก

แต่ถ้าคุณปิด DSC แล้วเลือกโหมด 2WD M5 ก็จะส่งพลัง 600 ม้าของมันไปที่ล้อคู่หลัง แล้วปล่อยให้คุณรับผิดชอบตัวเองที่อาจหาญมาซ่ากับมัน แน่นอนว่าถ้าคุณเก่งพอ มันก็จะมอบรางวัลด้วยการดริฟท์สไลด์ท้ายควันขโมงอย่างงดงาม

และคุณสามารถทำทั้งหมดนี้ได้ โดยที่นั่งอยู่ภายในรถ..ที่หรูหรา ตกแต่งด้วยวัสดุชั้นดี มีเบาะที่นั่งสบายกับเครื่องเสียงชั้นเลิศ M5 นี่ล่ะคือรถที่จะพาคุณเข้าถึงหัวใจของการเป็น Executive Sport Saloon ได้ดีที่สุด

BMW M4 CS
ราคาจำหน่ายรวม BSI Standard 11,439,000 บาท

อีกหนึ่งตำนานแห่ง Performance Car ไม่มีวันตายจากเมือง Munich M4 CS คือรถที่เข้ามาสอดแทรกตรงกลางระหว่าง M4 Competition Package กับ M4GTS และถ้าคุณคิดว่าการที่มันไม่ “สุด” เท่ารุ่น GTS ทำให้มันไม่น่าสนนั้น คุณอาจจะคิดผิด เพราะ BMW แจ้งว่ารถรุ่นนี้จะมีการผลิตในจำนวนจำกัดแค่เพียง 3,000 คันเท่านั้นทั่วโลก หมดแล้วหมดเลย

ทั้ง M4 รุ่นปกติ, M4 Competition Package และ M4CS ต่างก็ใช้เครื่องยนต์ S55B30 เหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันในการจูน รุ่นปกติ จะมีพลัง 431 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร รุ่น Competition จะเพิ่มแรงม้าเป็น 450 แรงม้า แรงบิดเท่าเดิม ส่วน M4CS จะมี 460 แรงม้า แรงบิดเพิ่มเป็น 600 นิวตัน สูงมากน้องๆเครื่อง V8 เทอร์โบบางรุ่นเลยทีเดียว

M4CS ส่งกำลังผ่านเกียร์คลัตช์คู่ 7 จังหวะ M-DCT ที่สามารถปรับความไวและความกระชากในการทำงาน เพื่อความสะใจในการขับได้หลายระดับ ตัวถังประกอบโดยใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา มีการใช้พลาสติกเสริมใยคาร์บอน (CFRP) และอะลูมิเนียมมาเป็นส่วนประกอบของโครงตัวถัง หลังคาเป็นคาร์บอนไฟเบอร์เคลือบเงา เช่นเดียวกับหางหลัง ภายในปรับให้เหมาะกับการใช้แข่งแบบ Trackday ล้ออัลลอย M ขนาด 19 – 20 นิ้ว ลาย V-Spoke 763M

ส่วนภายในเน้นบรรยากาศ Performance Car เช่นเดียวกับ M4 มีพวงมาลัยและภายในบางส่วนหุ้มหนังกลับ Alcantara ของ M4CS มีความเก๋ด้วยการถอดมือจับเปิดประตูแบบปกติทิ้งแล้วทำเป็นสายชัก สำหรับดึงเปิดประตูคล้ายรถแข่งอีกด้วย

สำหรับบางวันของงานมอเตอร์โชว์ M4CS อาจจะไม่อยู่ (เช่นวันที่ 30 เมษายนที่ผมไปงานมาเป็นรอบที่สาม) BMW เขาก็จะเอา M4 Coupe รุ่นปกติสีเขียว Java Green แสบสันต์มาจอดแทนอย่างที่เห็น

BMW X3 xDrive20d M Sport
ราคาจำหน่ายรวม BSI Standard 3,799,000 บาท

X3 เป็นรถ SAV (ศัพท์ BMW..ถ้าคนทั่วไปก็เรียก SUV/Crossover ตามสะดวก) พิกัดกลางของทางค่าย เพิ่งจะเปิดตัวในไทยไปเมื่อปลายปีที่แล้ว แต่มาเพียงรุ่นเดียวคือ xDrive20d xLine ราคา 3,699,000 บาท ซึ่งแม้ว่าจะมีกระแสตอบรับที่ดีในกลุ่มผู้ใช้รถ BMW ที่เน้นการใช้งานแบบครอบครัว แต่ก็ยังมีเสียงชาว BMW ขนานแท้ที่อยากได้ X3 ในรูปแบบที่สปอร์ตขึ้น เกาะถนนขึ้น มีอุปกรณ์มากขึ้น..และมีกล้องหลังมาให้เสียที

แน่นอนว่า BMW ก็ฟัง Feedback จากลูกค้า แล้วก็รีบพา X3 xDrive20d M Sport มาเปิดตัวโดยเร็วพลัน มาแบบเงียบๆชนิดขนาดคนในวงการรถยนต์ยังไม่มีใครล่วงรู้!

X3 xDrive20d M Sport ยังใช้เครื่องยนต์ดีเซล B47 TwinPower Turbo 2.0 ลิตร 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 400 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ เช่นเดียวกับรุ่น xLine แต่สิ่งที่คุณจะได้เพิ่มมาเมื่อยอมจ่ายเงิน 3,799,000 บาทก็มีหลายอย่างจนดูคุ้มเงิน ยกตัวอย่างบางชิ้นก็เช่น

  • ล้ออัลลอย เปลี่ยนลายใหม่เป็นลาย M ห้าก้านคู่ แต่ขนาดยัง 19 นิ้วเท่าเดิม
  • ชุดแต่งรอบคันเปลี่ยนเป็นแบบ M Sport
  • เพิ่ม ช่วงล่างแบบ M Sport ที่โช้ค/สปริงแข็งขึ้น
  • เพิ่ม ระบบช่วยจอดรถแบบอัตโนมัติ เหมือนใน 530i M Sport
  • เปลี่ยนพวงมาลัยเป็นแบบ M Sport พร้อมแพดเดิ้ลชิฟท์
  • เปลี่ยนโทนสีของวัสดุตกแต่งภายในจากลายไม้ เป็นลายอะลูมิเนียม
  • เพิ่มเครื่องเสียง Harman Kardon
  • และแน่นอน..กล้องหลัง มาแล้ว

นอกจากนั้นแล้ว คุณได้อุปกรณ์ iDrive ขนาด 10.25 นิ้วพร้อมระบบสั่งการด้วยการขยับมือ Gesture Control มีกุญแจ BMW Display Key ที่สามารถล็อคและปลดล็อคด้วยสัญญาณวิทยุทางไกล และยังแสดงสถานะและข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงควบคุมฟังก์ชั่นการทำงานอื่น ๆ ของรถ ดังที่รุ่น xLine มี ส่วนเบาะหน้า/หลังนั้นไม่ได้เปลี่ยน เพราะ xLine ของสเป็คไทยนั้น ทาง BMW Thailand ทำแปลกโดยการจัดเบาะแบบสปอร์ตมาให้อยู่แล้ว

BMW X1 sDrive20d M Sport
ราคาจำหน่ายรวม BSI Standard 2,559,000 บาท

นี่ก็เป็นอีกคันที่แอบมาแบบเงียบ หลังจากที่ขายมานาน 2 ปีกับขุมพลัง 1.5 ลิตรเบนซินเทอร์โบ 136 แรงม้าในรุ่น sDrive18i และดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร 150 แรงม้าในรุ่น sDrive18d ทาง BMW ใช้ฤกษ์งานมอเตอร์โชว์นี้ อัปเกรดพลังให้กับ X1 แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่า เฉพาะรุ่น M Sport เท่านั้นที่จะได้ขุมพลังใหม่ ส่วนรุ่น xLine ทั้งเบนซินและดีเซลในขณะนี้จะยังใช้เครื่องยนต์ชุดเดิมไปก่อน โดยที่เร็วๆนี้รุ่น sDrive18i จะเปลี่ยนไปใช้เกียร์คลัตช์คู่ Steptronic DCT แบบเดียวกับใน X2

มาว่ากันต่อที่ขุมพลังใหม่ดีกว่า X1 sDrive20d M Sport นี้ จะใช้เครื่องยนต์ TwinPower Turbo ดีเซล 4 สูบพร้อมเทอร์โบแปรผัน จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดคอมมอนเรล ขนาดความจุ 2.0 ลิตร พื้นฐานหลักก็เป็นเครื่องตัวเดียวกันกับ sDrive18d แต่ปรับจูนพลังให้เพิ่มเป็น 190 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตรตั้งแต่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ใครก็ตามที่บ่นว่ารุ่น 150 แรงม้า ต้นดีแต่รอบปลายไม่ลื่นอย่างที่หวัง (รวมถึงผม) คราวนี้น่าจะพอใจกันได้แล้ว และที่สำคัญคือ ราคาไม่ได้เพิ่มไปจากตอนเป็น sDrive18d M Sport เลยสักนิด

อย่างไรก็ตาม เท่าที่ลองเดินชมรอบคัน คาดว่าอุปกรณ์ต่างๆก็ยังคงเหมือนเดิมเสียส่วนใหญ่ เอาล่ะน่า! ได้ม้าเพิ่มมา 40 ตัวในราคานี้ก็น่าจะคุ้มแล้วนะ!

BMW 530i Touring M Sport
ราคาจำหน่ายรวม BSI Standard 4,539,000 บาท

ถ้าคุณเป็นพ่อบ้านไฮโซ อยากแรงแต่ภรรยาไม่อนุญาตให้ซื้อรถสปอร์ต…หรือเป็นคนที่ไม่ชอบรถปลั๊ก กำลังจะซื้อ 530i ตัวซาลูนแต่ซื้อไม่ทัน ครั้นจะให้ใช้ 530e ก็รู้สึกผิดอุดมการณ์ โอกาสของคุณมาถึงแล้วกับ BMW 530i Touring M Sport ที่เพิ่มความอเนกประสงค์สำหรับการขนของ พร้อมฝาท้ายที่สามารถแยกเปิดได้ 2 ส่วนอันเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ 5 Touring มาช้านาน

การตกแต่งและอุปกรณ์ในภาพรวม มันก็ลอกแบบมาจาก 530i M Sport ตัวซาลูนนั่นเอง ดังนั้นไม่ต้องสืบว่าคุณจะได้ของเล่นติดรถมากมาย ไม่ว่าจะเป็นชุดแต่ง M Sport รอบคัน ล้ออัลลอย M 19 นิ้วแบบเดียวกับตัวซาลูน ฝาท้ายแบบเปิด/ปิดด้วยระบบไฟฟ้า หรือด้วยการแกว่งเท้าหาเสี้ยนใต้กันชน แค่นี้ภายนอกก็ดูหล่อแบบคนรักครอบครัวแล้ว

ภายในก็จัดแบบเต็มพิกัด หน้าปัดแบบ TFT เต็มจอ 12.3 นิ้ว จอกลางขนาดใหญ่ 10.25 นิ้วพร้อมระบบ Gesture Control และ iDrive เวอร์ชั่นใหม่ มีเซนเซอร์ช่วยกะระยะจอดหน้า/หลัง พร้อมกล้องหลังและระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ สำหรับเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน ก็ยังเป็นบล็อค 2.0 ลิตร TwinPower Turbo 252 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะเช่นเดียวกับ 530i ซาลูน

ใครบอกว่ารถ Touring ไม่น่าซื้อ? ลองคิดใหม่อีกรอบ หรือไปค้นตามเว็บรถมือสองก็ได้ จะเห็นว่ารถประเภทนี้คนพูดกันว่ายี้..แต่ท้ายสุดพอรถเริ่มมีอายุ กลับกลายเป็นของหายาก ใครขับก็เท่ ใครมีแล้วแต่งสวยๆเอาไปจอดมีตติ้งก็เก๋ ไม่เชื่อลองเทียบราคาซื้อขายของรุ่นซาลูนกับ Touring ดูสิครับ ยิ่งเก่ายิ่งต่าง!

BMW 330e Sport
ราคาจำหน่ายรวม BSI Standard 2,359,000 บาท

ขิงนั้นยิ่งแก่ยิ่งรสร้อนแรง.. BMW ซีรีส์ 3 F30 นั้น ยิ่งอายุมากเข้าก็ยิ่งมีรุ่นย่อยให้เลือกตามงบประมาณหลากรุ่นขึ้น หลังจากที่มีรุ่น 330e Iconic รถพรีเมียมราคา 2 ล้านต้นๆไปได้สักพัก BMW ก็จัดรุ่นย่อยใหม่ 330e Sport มาให้ โดยภายนอกและภายในนั้น จะมีพื้นฐานมาจากรุ่น Iconic กันชนหน้า/หลังเหมือน Iconic แต่เพิ่มล้ออัลลอยลาย Double Spoke ขนาด 18 นิ้ว (คนละลายกับรุ่น M Sport แต่ขนาดยางเท่ากัน) ไฟหน้าเป็นแบบ LED ธรรมดา ไม่มี Adaptive LED กับไฟสูงอัตโนมัติเหมือนกัน

ส่วนภายในก็ได้เบาะสปอร์ตเหมือนกัน หน้าจอกลางขนาด 6.5 นิ้ว (Luxury กับ M Sport ใช้ขนาด 8.8 นิ้ว) พวงมาลัยทรงเดียวกับรุ่น Iconic แต่มีดีตรงที่เพิ่มแพดเดิ้ลชิฟท์สำหรับเล่นเกียร์เองมาให้ ด้วยความแตกต่างด้านออพชั่นที่เน้นไปทางด้านความสวยงาม ทำให้ราคาต่างกันไม่มาก

ขุมพลังขับเคลื่อนของ 330e Sport ก็เหมือนกับรุ่นย่อยอื่นๆของ 330e โดยใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ TwinPower Turbo ซึ่งลำพังตัวเครื่องยนต์สันดาปภายใน สามารถสร้างพลังได้ 184 แรงม้า และมีแรงบิด 290 นิวตันเมตร โปะด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าพลัง 89 แรงม้า มีแรงบิด 250 นิวตันเมตร ซึ่งนี่ก็คือส่วนที่ใช้ขับเคลื่อน 330e ในโหมดไฟฟ้าล้วน ยามที่ต้องการความเงียบ เช่นการย่องเข้าบ้านในยามค่ำคืน และสามารถแปรเปลี่ยนเป็น e-Boost เพื่อเพิ่มพลังในการเร่งแซงที่ฉับไว้ โดยเมื่อทั้ง 2 ระบบทำงานร่วมกัน จะได้แรงม้ารวม 252 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ สามารถวิ่งโดยไม่ติดเครื่องยนต์เลยเป็นระยะ 40 กิโลเมตร

นับเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนชอบรถ Plug-in Hybrid พลังแรง ประหยัดเชื้อเพลิง ในราคาที่แพงกว่ารถญี่ปุ่น D-Segment ไม่มาก

BMW 320d M Sport
ราคาจำหน่ายรวม BSI Standard 2,459,000 บาท

หลังจากที่ 320d M Performance รุ่นผลิตจำนวนจำกัดได้รับความนิยมและขายหมดอย่างรวดเร็ว BMW ก็ตัดสินใจเพิ่มรุ่นย่อยแบบ M Sport ตรงรุ่นให้กับ 320d สำหรับคนที่อยากได้ออพชั่นเต็มๆแบบไม่ต้องแต่งต่อ แต่ชื่นชอบในเครื่องยนต์ดีเซล

เมื่อมองจากภายนอก สิ่งที่แตกต่างจากรุ่นอื่นคือชุดแต่ง M รอบคัน แบบเดียวกับของ 330e M Sport ล้ออัลลอยขยับจาก 17 เป็น 18 นิ้ว ลาย M Star Spoke 5 ก้านคู่ ตัวล้อเป็นสีเงิน ไม่ได้เคลือบสีไฮเปอร์แบบของ 330e  นอกจากนี้ยังได้ช่วงล่างเป็นสเป็ค M Sport ที่ขับสนุกทิ้งโค้งแม่นขึ้น ไฟหน้าเป็นแบบ LED ธรรมดา (ไม่เป็น Adaptive LED แบบ 330e M Sport) ภายใน ได้เบาะสปอร์ตและพวงมาลัยแบบ M Sport พร้อมแพดเดิ้ลชิฟท์ จอกลางยังเป็นแบบ 6.5 นิ้ว และระบบ iDrive เป็นแบบธรรมดา

เครื่องยนต์ที่ใช้ ก็ยังเป็นแบบ B47D20A 2.0 ลิตร TwinPower Turbo ดีเซล 190 แรงม้า และส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic เหมือนกันกับ 320d Iconic

ในภาพรวม 320d M Sport ก็คือ 320d Iconic ที่ถูกจับมาใส่ชุดแต่ง M กับล้ออัลลอยวงโต เปลี่ยนรายละเอียดภายในนิดหน่อย อาจจะไม่ครบครันเท่า 330e M Sport แต่ด้วยราคาแค่ 2,459,000 บาท น่าจะถูกใจคอ BMW Diesel โดยเฉพาะเศรษฐีต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ต่างๆ ที่ต้องขับรถเดินทางไกลบ่อยจนไม่สะดวกในการชาร์จไฟ อีกทั้งความประหยัดของดีเซล BMW ก็รู้กันอยู่แล้วว่าถ้าขับเรียบร้อยหน่อย เติมน้ำมันที วิ่งกันจนลืม

BMW i8 Protonic Frozen Black
ราคาจำหน่ายรวม BSI Standard 11,839,000 บาท

i8 สีนี้ เคยถูกนำไปโชว์ตัวในงาน BMW xPo 2017 มาก่อนแล้ว แต่ยังนับเป็นรถที่พิเศษมากอีกรุ่นหนึ่ง มันถูกผลิตมาในจำนวนจำกัด โดยสีดำด้านที่เด่นโดดดูดีจากภายนอกนั้น เป็นฝีมือการทำสีของ BMW Individual ซึ่งใช้สีแบบดำด้าน Protonic Frozen Black ตกแต่งสลับกับสีเทาเมทัลลิค Frozen Grey เพื่อไม่ให้ดูมืดเกินไป วัสดุด้านนอกของตัวรถที่ทำมาจาก CFRP ก็มีการทำสี Frozen Black ลงไป

ภายในห้องโดยสารของ i8 Protonic Frozen Black Edition นี้ จะมีการตกแต่งด้วยตะเข็บเบาะและคอนโซลกลางสีเหลืองตัดกับพื้นผิววัสดุสีดำ และยังมีการเดินด้ายตะเข็บเหลืองสะดุดตาเพิ่มที่ด้านในแผงประตู พรมปูพื้น และส่วนล่างของแดชบอร์ด ผ้าบุเพดานเป็นสีดำแอนทราไซต์ตามสไตล์ BMW รุ่นแรง สายเข็มขัดนิรภัยเป็นสีเทา คันเกียร์และปุ่ม iDrive เคลือบเซรามิก นอกจากนี้ที่ขอบประตูด้านล่างยังมีการสลักอักษรเป็นคำว่า “Edition” ให้คนอื่นรู้ว่านี่ไม่ใช่ i8 เวอร์ชั่นทั่วไป

BMW 118i M Sport M Performance Edition
ราคาจำหน่ายรวม BSI Standard 2,099,000 บาท

สำหรับคนที่ชื่นชอบรถ Hatchback ตัวเล็กขับคล่อง และชอบรถที่ขับเคลื่อนล้อหลัง 1-Series Hatchback นับเป็น Entry level ที่มอบความสนุกในการขับได้อย่างลงตัว ในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ จึงมีรุ่นพิเศษ M Performance Edition ซึ่งใช้ชุดแต่ง M Performance รอบคัน ทำสีดำเงา รวมถึงล้ออัลลอยวงโตที่ทำเป็นสี Jet Black รับกับกระจกมองข้างสีดำเงา

118i Sport M Performance Edition ใช้เครื่องยนต์ TwinPower Turbo 1.5 ลิตร 3 สูบ 136 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ให้ความคล่องตัวสำหรับการขับขี่ในเมือง ด้วยพลังแรงบิดที่มีให้ใช้ตั้งแต่รอบต่ำ อย่าคิดว่า 3 สูบแล้วจะไม่วิ่ง กดเมื่อไหร่เป็นมา ยิ่งเป็นในตัวเมือง ทางแคบ โค้งแคบ คนที่ได้ลองซีรีส์ 1 จะรู้ว่าบางครั้งความคล่องตัวก็มีชัยเหนือพละกำลังได้

แคมเปญพิเศษสำหรับ Bangkok International Motor Show 2018

ลูกค้า BMW ที่จองรถในงาน และรับรถภายใน 30 เมษายน 2018 ได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้

  • ลูกค้าซื้อซีรีส์ 730Ld, i8 และรถ M2, M4 กับ M5 ได้บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 70,000 บาท
  • รุ่นอื่นๆ ยกเว้นรถ Plug-in Hybrid ได้บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 50,000 บาท
  • รถยนต์ Plug-in Hybrid ได้การยกระดับอัปเกรดจาก BSI Standard เป็น BSI Ultimate 5 ปี/100,000 กิโลเมตร

งานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ จะยังมีไปจนถึงวันที่ 8 เมษายน ดังนั้นใครที่ยังไม่ได้ไปเดิน ก็บริหารจัดการเวลาให้ดี อย่าพลาด และอย่าลืมนะครับ การจะซื้อรถทั้งคัน ต้องคิดให้มากกว่าการซื้อของเล่นหรือเสื้อผ้าอื่นๆ BMW นำรถมาร่วมในงานนี้หลากหลายรุ่นก็เพื่อให้คุณลองนั่ง ลองดูฟังก์ชั่นต่างๆ และคิดให้รอบคอบว่าในบรรดารถของ BMW ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้หลากหลายนั้น รุ่นไหน หรือรุ่นย่อยใดจะเหมาะกับคุณที่สุด

เชื่อผมเถอะครับ บางครั้ง รถที่แพงที่สุด ก็ไม่ได้ดีเท่ากับรถที่สามารถตอบความต้องการของคุณได้อย่างเหมาะสมหรอกครับ


 

The following two tabs change content below.

Pan Paitoonpong

Founding Member/Contributing Editor
มนุษย์ปากจัดผู้หลงใหลเสน่ห์ของรถยุค 90s ชื่นชอบรถยนต์ที่ขับสนุกและมีการออกแบบที่เปิดโอกาสให้ผู้ขับตัวอ้วนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับการขับขี่>>รู้จักกันในชื่อ Commander CHENG ก่อนรีแบรนด์ตัวเองโดยใช้ชื่อจริง>>ทดสอบรถยนต์และเขียนบทความให้กับสื่ออิเล็กทรอนิกส์และสิ่งพิมพ์ Headlightmag.com, GQ Magazine และแน่นอน..bimmer-th.com

Comments

comments