ซีรีส์ 3 คือรถยนต์ขนาดกระทัดรัดของ BMW ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงจนเป็น BMW โมเดลที่ขายดีที่สุด เพราะมีตัวถังและเครื่องยนต์ให้เลือกมากมายหลายแบบ ตอบสนองได้ตั้งแต่ระดับรถ Fleet ขององค์กรไปจนถึงผู้บริหารไฟแรงและนักแข่ง/นักแต่งรถตัวยง มันคือรถระดับ Entry Level ที่มักจะมีรุ่นราคาถูกเอื้อมลงไปหาตลาดระดับคนทั่วไป จนกระทั่งเมื่อเวลาผ่านไป ตัวรถก็ขยายใหญ่ขึ้น พละกำลังและความหรูหราก็เพิ่มขึ้น BMW จึงสร้างรถขนาดเล็กอย่างซีรีส์ 1 และ 2 ขึ้นมาเพื่ออุดช่องว่างที่เกิดขึ้น
ตั้งแต่สมัยก่อนที่ซีรีส์ 3 จะเกิดขึ้นมาบนโลกนั้น BMW มีรถเล็กอย่าง 1500-2 (1502), 1600-2 (1602), 1802 และ 2002 รถเหล่านี้เกิดจากการเอาซีดานขนาดกลางในตระกูล Neue Klasse อันเป็นรถขนาดกลางรุ่นใหม่ในยุคนั้นที่เน้นบุคลิกแบบสปอร์ตซาลูน มาทำให้เหลือ 2 ประตูและปรับขนาดให้กระทัดรัด กลายเป็นรถ Entry level ของ BMW ขายตั้งแต่ช่วงปี 1966-1977 รถขนาดเล็กแบบนี้ได้กระแสตอบรับดีและเป็นที่นิยมอย่างสูง จึงทำให้ BMW คิดทำรถ 2 ประตูขนาดกระทัดรัดที่มีความหรูบวกสปอร์ตแบบผู้บริหารวัยหนุ่มต่อไป นั่นคือจุดกำเนิดของซีรีส์ 3 ที่เกรียงไกรอยู่บนโลกรถพรีเมียมมาจนทุกวันนี้
E21 (1975-1983)
นี่คือซีรีส์ 3 รุ่นแรกอย่างเป็นทางการ มีตัวถังเพียง 2 แบบคือ 2 ประตูคูเป้กับรุ่นเปิดหลังคาตรงกลาง (Baur Cabriolet) รูปทรงตัวถังออกแบบโดย Paul Bracq โดยนำเอารูปแบบทรงลิ่มคม Wedge Shape คล้ายของซีรีส์ 5 ตัวถัง E12 มาประยุกต์ให้เข้ากับตัวถังคูเป้ ท้ายรถไม่ลาดเตี้ยเหมือนรถรุ่นก่อนๆจากอดีต ภายในมีจุดเด่นที่แดชบอร์ดตรงกลางบิดหันเข้าหาคนขับ นับเป็น BMW รุ่นแรกที่ออกแบบคอนโซลมาในลักษณะนี้และสร้างแม่แบบให้กับวิธีการออกแบบภายในของ BMW รุ่นอื่นๆหลังจากนั้นเป็นต้นมา
E30 (1982-1991)
ออกแบบโดย Claus Luthe และเป็นการเปิดโฉมหน้าแนวทางการออกแบบใหม่ของ BMW ที่นำไปใช้กับซีรีส์ 5 และ 7 ในเวลาต่อมา ลดเส้นสายแหลมคมลง เพิ่มความมนกลมกลืนและปรับให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น คอนโซลหันเข้าหาคนขับ ช่วงล่างรูปแบบคล้ายเดิม หน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท หลังเซมิเทรลลิ่งอาร์มซึ่งขึ้นชื่อเรื่องท้ายปัดง่าย (แต่หลายคนชอบ) มีการเพิ่มตัวถังแบบ 4 ประตู แบบสเตชั่นแวก้อน (Touring) และแบบเปิดประทุนให้ลูกค้าเลือก ในระยะแรกใช้เครื่องยนต์ M10 4 สูบและ M20 6 สูบเรียงเป็นหลัก ในปี 1987 มีการปรับเปลี่ยนลักษณะกันชน ไฟหน้าและไฟท้ายใหม่พร้อมทั้งโยนเครื่อง M10 ทิ้งเปลี่ยนเป็น M40 แทน E30 เป็นรถที่ขายดีมาก โดยขายได้ถึง 2,339,520 คัน
E36 (1991-1999)
ออกแบบโดย Pinky Lai นักออกแบบชาวฮ่องกงที่ฝีมือดีจนภายหลังได้ไปออกแบบ Porsche Boxster ตัวแรก ซีรีส์ 3 รุ่นนี้ยังเป็นตัวบุกเบิกดีไซน์ธีมใหม่ของ BMW ในยุคของมันเช่นเดียวกับสมัย E30 ไฟหน้าเปลี่ยนจากแบบกลมแยก 4 ดวงเป็นแบบมีฝาครอบใส รูปทรงของรถเน้นความลู่ลมและหลักอากาศพลศาสตร์มากขึ้น เป็นรุ่นแรกที่ได้ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบเรียงมัลติวาล์ว M50 มีตัวถังให้เลือกมากแบบเช่นเดิม แต่ตัดรุ่น Cabriolet by Baur (หลังคาเปิดช่วงกล่าง)ออกไป และมีรุ่น E36/5 ซึ่งเป็นรถแฮทช์แบ็คท้ายตัดมาแทนเพื่อเอาใจคนยุโรปที่ชอบรถเล็ก ช่วงล่างหลังเปลี่ยนจากเซมิเทรลลิ่งอาร์มเป็นมัลติลิงค์แบบ Z-Axle ที่ทดลองใช้ในรุ่น Z1 มาแล้วว่ายับยั้งอาการท้ายกวาดโดยไม่ได้ตั้งใจได้จริง ทั้งนี้รุ่น E36/5 Compact จะยังใช้ช่วงล่างหลังแบบ E30 เพราะเนื้อที่จำกัด และมีแดชบอร์ดที่หน้าตาไม่เหมือน E36 รุ่นอื่นๆ
E46 (1998-2006)
ออกแบบโดย Erik Goplen ภายใต้การดูแลของ Chris Bangle ซึ่งเข้ามาเป็นหัวหน้าทีมออกแบบตั้งแต่ปลายปี 1992 E46 ไม่ได้เป็นซีรีส์ 3 ที่สร้างแนวทางรูปทรงใหม่อย่างรุ่นก่อนๆ แต่กลับเอาสัดส่วนของ E36 มาบวกกับเอกลักษณ์จากรุ่นต่างๆเช่นเส้นกลมมนของซีรีส์ 5 E39 และไฟท้ายแบบตัว L จากซีรีส์ E34 นอกเหนือจากนั้นไปเป็นเทคโนโลยีใหม่ๆที่ถูกนำมาใช้ เช่นช่วงล่างปีกนกอะลูมิเนียม ห้องโดยสารถูกออกแบบให้เหมือนซีรีส์ 5 และซีรีส์ 7 ย่อส่วนลงมา มีพื้นที่ภายในเพิ่มขึ้นจาก E36 เครื่องยนต์กลไกที่ใช้เป็นเวอร์ชั่นอัพเดตของ E36 เช่นเครื่อง M43, M52 และ M54 โดยหลังผ่านเข้าศตวรรษใหม่ E46 ก็ได้เครื่องตระกูล N42 มาแทน M43 มีระบบวาล์วแปรผันและระบบ Valvetronic นอกจากนี้ยังมีรุ่นดีเซลพลังสูงยุคใหม่อย่าง M57 ใน 330d 3.0 ลิตรที่แรงม้าสูงถึง 204PS
E90 (2005-2011)
E91 Touring (2005-2011)
E92 Coupe (2006-2012)
E93 Convertible (2007-2012)
คราวนี้มาแปลกหน่อยเพราะ BMW เอาดีไซน์ธีม “Flame Surfacing” ที่ Chris Bangle เป็นคนต้นคิดไปใช้กับซีรีส์7 E65 ก่อนจากนั้นพอกระแสตอบรับไม่ค่อยดีก็มาปรับดีไซน์ใช้กับซีรีส์ 5 แล้วค่อยมาสู่น้องนุชอย่างซีรีส์ 3 ทำให้เราเห็นรูปลักษณ์ที่ถูกปรับลดทอนความเกรี้ยวกราดลงจากรุ่นพี่มาก แม้แต่ภายในก็เอามาจากรุ่นพี่ สังเกตได้จากตำแหน่งวางจอกลางและระบบ iDrive แต่ในด้านเทคนิคนั้นมีพัฒนาการที่ก้าวหน้าขึ้นไปเสมอโดยเฉพาะเครื่องยนต์ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ซีรีส์ 3 มีเครื่องเบนซินเทอร์โบจากโรงงานในรุ่น 335i ส่วนรุ่นดีเซลก็ได้รับการพัฒนาอย่างมากโดยเฉพาะเครื่อง N47 ดีเซล 2.0 ลิตรที่ประหยัดน้ำมันและให้พลังสูงจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ซีรีส์ 3 รุ่นนี้ คือรุ่นสุดท้ายที่มีเครื่องยนต์เบนซินแบบไร้ระบบอัดอากาศ 4, 6 และ 8 สูบให้เลือก
F30 (2011-Present)
F31 Touring (2011-Present)
F34 3-Series GT
F35 Long Wheel Base
ในปี 2011 BMW ประกาศวิธีเรียกชื่อรุ่นรถของตัวเองใหม่ โดยรถตัวถังซาลูน ทัวร์ริ่ง และรุ่นอื่นๆที่เน้นการใช้งานกับการโดยสารจะใช้ชื่อว่าซีรีส์ 3 ในขณะที่รถรุ่น 2 ประตูคูเป้ และเปิดประทุนจะเปลี่ยนชื่อเป็นซีรีส์ 4 โดย Christopher Weil รับผิดชอบการออกแบบภายใต้การนำของ Adrian van Hooydonk เส้นสายในรุ่นนี้ก็มาจากซีรีส์ 5 F10 (BMW ค่อนข้างจะ “เพลย์เซฟ”มากขึ้นหลังจากยุคของ Bangle สิ้นลง) เจนเนอเรชั่นที่ 6 ของซีรีส์ 3 ยังเน้นการพัฒนาขุมพลังต่อจากเดิม ทุกเครื่องที่ใช้ล้วนมีเทอร์โบโปะอยู่ทั้งนั้น และปรับตัวเข้าหากระแสไฮบริดและไฟฟ้าด้วยการเปิดตัว ActiveHybrid3 รถไฮบริดม้าทะลุ 300 ตัวที่แรงแบบรถสปอร์ตยังหนาว กับ 330e รถไฮบริดแบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟบ้านและวิ่งด้วยพลังมอเตอร์เปล่าๆได้หลายสิบกิโลเมตร บอดี้ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือ F34 Gran Turismo ซึ่งออกแบบโดยเน้นความสบายของผู้โดยสาร ฐานล้อยาวขึ้นกว่า F30 อีก 110 มิลลิเมตรและหลังคาสูงขึ้น 79 มิลลิเมตร ส่วนรุ่น F35 เป็นเวอร์ชั่นพิเศษสำหรับตลาดจีน ใช้หน้าตาตัวถังที่เหมือน F30 แต่ใช้โครงสร้างแบบฐานล้อยาวกว่าปกติ 110 มิลลิเมตรเหมือนของ Gran Turismo
F32 Coupe (2013 till Now)
F33 Convertible (2013 till Now)
F36 Gran Coupe (2014 till Now)
รถบอดี้ 2 ประตู และ 4 ประตูหลังคาเตี้ยรุ่นพิเศษ ถูกตัดออกจากกองมรดกซีรีส์ 3 ให้ไปตั้งอนุกรมใหม่ในชื่อซีรีส์ 4 เทคโนโลยีและพัฒนาการต่างๆที่เพิ่มขึ้นมาก็เหมือนกับซีรีส์ 3 ซึ่งได้เครื่องยนต์เทอร์โบยกครอบครัว ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะรุ่นใหม่ มีการเพิ่มรุ่น F36 หรือซีรีส์ 4 Gran Coupe ซึ่งเป็นรถ 4 ประตูคูเป้ หน้าตาคล้าย 3 Gran Turismo แต่มีหลังคาที่เตี้ยดูเป็นสปอร์ต
สงวนลิขสิทธิ์เนื้อหาถ้อยคำในบทความโดยผู้เขียนและเว็บไซต์ bimmer-th.com
กรุณาขออนุญาตก่อนนำไปใช้

Pan Paitoonpong

Latest posts by Pan Paitoonpong (see all)
- BMW 2 Series Coupe ใหม่ รหัส G42 สนุกแบบขับหลังได้เช่นเดิม - July 9, 2021
- 6 Application ที่ห้ามพลาดสำหรับคนรักรถ - June 8, 2021
- BMW i4: เจาะรายละเอียด EV สปอร์ต Gran Coupe ที่มีโอกาสมาไทย - June 7, 2021