เปิดตัว BMW M5 ใหม่ พร้อมรายละเอียดครบที่สุด

และแล้วการรอคอยก็สิ้นสุดลง เวบไซต์สื่อมวลชน BMW PressGroup และ BMW-M.com ได้เปิดเผยข้อมูลและรูปภาพของ BMW M5 รุ่นใหม่ รหัสตัวถัง F90 อย่างเป็นทางการ โดยก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่นาทีก็มีการเผยภาพของ BMW M5 ใหม่ ร่วมกับบริษัทเจ้าพ่อเกมส์ขับรถอย่าง EA ซึ่งปล่อย Teaser เปิดตัวเกมส์ Need For Speed เวอร์ชัน Payback ซึ่งจะพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการกันในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2017 หรืออีกเกือบ 3 เดือนข้างหน้า โดยในคลิปแนะนำเกมส์นั้นมี BMW M5 ใหม่ เป็นพระเอก

ข้อมูลอย่างเป็นทางการนั้นยืนยันและสอดคล้องกับข้อมูลที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ BMW M5 ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ 4.4 ลิตร V8 bi-turbo พร้อมเทคโนโลยี M TwinPower Turbo โดยวิศวกรทีม M ได้นำเครื่องยนต์จาก BMW M5 รุ่นก่อน มาพัฒนาต่อยอดในหลายจุด เช่น เทอร์โบใหม่ ระบบลดความร้อนให้กับอากาศที่ถูกประจุเข้าห้องเผาไหม้ และเพิ่มแรงดันหัวฉีด ทั้งหมดทำให้เครื่องยนต์รุ่นใหม่มีพละกำลัง 441 กิโลวัตต์ หรือ 600 แรงม้า ระหว่าง 5,600 – 6,700 รอบ/นาที โดยเมื่อคิดคำนวณแล้วม้าหนึ่งตัวจะแบกน้ำหนักเพียงแค่ 3 กิโลกรัม เท่านั้น ส่วนแรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ที่มีออกมาให้ใช้ 100% ตั้งแต่รอบต่ำแค่ 1,800 รอบ/นาที BMW M5 ใหม่ สามารถเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.4 วินาที และ 0-200 กม./ชม. ใน 11.1 วินาที ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. เว้นแต่ว่าคุณจะเลือกซื้อออพชัน M Driver’s Package เพิ่ม (ซึ่งเดาว่าน่าจะมาพร้อมกับบัตรเข้าคอร์ส BMW Driving Experience เช่นเคย) ก็จะสามารถปลดล็อคความเร็วสูงสุดขึ้นไปอยู่ที่ 305 กม./ชม. แทน…บ้าไปแล้ว

จุดเด่นอีกเรื่องของ BMW M5 ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive ที่คนขับสามารถเลือกตั้งค่าร่วมกับได้ ถึง 5 แบบ โดยเลือกจากระบบ DSC คือ DSC On, MDM, DSC Off กับ M xDrive คือ 4WD, 4WD Sport และ 2WD ค่าเริ่มต้นของรถจะอยู่ที่โหมด DSC On และ 4WD ซึ่งแม้ว่าจะอยู่ในโหมดนี้ ระบบก็จะปล่อยให้ล้อหลังสามารถหมุนฟรีได้ในตอนที่เร่งส่งออกจากโค้งเพื่อความสนุกของคนขับ ส่วนในโหมด M Dynamic (MDM, 4WD Sport) ระบบขับเคลื่อน M xDrive ก็จะทำให้คนขับสามารถดริฟท์ได้อย่างง่ายดาย อีกสามโหมดที่เหลือซึ่งจะต้องปิดการทำงานของ DSC นั้น ก็จะยิ่งทำให้คนขับที่มีประสบการณ์สามารถโชว์ฝีไม้ลายมือกันได้เต็มที่

 

นอกจากโหมดของระบบควบคุมเสถียรภาพ DSC และระบบขับเคลื่อน M xDrive แล้ว คนขับยังสามารถเลือกตั้งค่า Driving Experience Control ได้เช่นเคย แต่ BMW M5 จะมีปุ่มมาให้ทำการปรับแยกกันระหว่างพวงมาลัย ช่วงล่าง และเครื่องยนต์ได้อย่างอิสระ ในส่วนของพวงมาลัยกับช่วงล่างนั้นจะมี 3 โหมด คือ Comfort, Sport และ Sport Plus เครื่องยนต์ก็จะมี 3 โหมด เช่นกัน แต่เปลี่ยนชื่อเรียกเป็น Efficient, Sport และ Sport Plus แทน และด้วยความที่มีค่าต่างๆ ให้ปรับเต็มไปหมด BMW จึงใส่ปุ่มสีแดง M1 และ M2 มาให้ที่สองฝั่งของพวงมาลัย ซึ่งสามารถบันทึกค่าในระบบต่างๆ รวมถึง DSC และ M xDrive ที่เราตั้งไว้และรู้สึกชื่นชอบได้สองแบบ ถึงเวลาจะเรียกใช้ก็กดปุ่ม M1 หรือ M2 แค่ปุ่มเดียวก็สามารถเรียกค่านั้นกลับมาได้ทันที

BMW M5 ใหม่ จะได้ชุดเบรก M Compound มาเป็นมาตรฐาน ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าเบรกแบบ Grey-cast ชุดเดิม โดยด้านหน้าใช้คาลิปเปอร์ M สีน้ำเงิน แบบ 6 ลูกสูบ ส่วนด้านหลังเป็นแบบ 1 ลูกสูบลอย และมีเบรกเซรามิกให้เลือกเป็นออพชัน ชุดเบรกจะหลบอยู่หลังล้ออัลลอยน้ำหนักเบาขนาด 19 นิ้ว (หน้า 9.5 หลัง 10.5) สีเทา Orbit Grey ซึ่งรัดไว้ด้วยยางที่ทำมาสำหรับ BMW M โดยเฉพาะ ขนาด 275/40R19 ในด้านหน้า และ 285/40R19 ในด้านหลัง แต่ถ้ายังไม่ใหญ่พอก็สามารถเลือกออพชันล้อ 20 นิ้ว กับยาง 275/35R20 และ 285/35R20 ในด้านหน้าและหลัง ตามลำดับได้ด้วย

ในส่วนของตัวถังของ BMW M5 ใหม่ ใช้ฝากระโปรงหน้าเป็นอะลูมิเนียม โดยเส้นสายของฝากระโปรงหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ของรถตระกูล M จะลากต่อเนื่องขึ้นไปจนถึงหลังคาที่เป็นวัสดุ CFRP และปิดท้ายด้วยสปอยเลอร์ M บนฝากระโปรงท้ายเพื่อเสริมภาพลักษณ์ความสปอร์ตและทรงพลัง นอกจากนี้ ยังมีหน้าที่หลักในการจัดระเบียบของกระแสลมที่ไหลผ่านตัวรถอีกด้วย

ภายในจะพบกับมาตรวัดแบบหน้าจอซึ่งแตกต่างจาก 5 Series G30 เพราะว่ากราฟฟิคที่ใช้นั้นถูกออกแบบมาสำหรับ M โดยเฉพาะ โดย BMW เรียกมันว่า M-Specific Display ประกอบไปด้วยกราฟฟิคมาตรวัดแบบเข็มจำนวน 5 วง คือ ความเร็ว รอบเครื่องยนต์ ปริมาณน้ำมันในถัง อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง และอัตราการบริโภคเชื้อเพลิง นอกจากนี้ บนหน้าจอยังแสดงค่าเซ็ทติ้งของระบบ M Driving ทั้งพวงมาลัย ช่วงล่าง และเครื่องยนต์ รวมถึงโหมดของเกียร์ Drive Logic และระบบขับเคลื่อน M xDrive ไว้ตรงกึ่งกลางเพื่อให้สามารถอ่านค่าที่รถถูกปรับตั้งไว้ได้อย่างรวดเร็ว และแน่นอนว่ากุญแจของ BMW M5 ใหม่ จะต้องเป็น Display Key แบบที่เราเคยนำมารีวิวให้ดูกันไปแล้ว

ก่อนหน้านี้ เราเคยสงสัยว่าทำไมคลิปสั้นที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งมี BMW M5 ใหม่วิ่งผ่านแว้บไปแว้บมา ถึงเลือกใช้ตัวรถเป็นสีแดงอมม่วงผิวด้าน วันนี้เวบไซต์ BMW-M ไขข้อสงสัยแล้วว่า รถคันดังกล่าวคือรุ่นพิเศษที่เรียกว่า BMW M5 First Edition ซึ่งได้รับการออกแบบโดยทีม BMW Individual และแท้จริงแล้วตัวรถเป็นสีแดงที่ใช้ชื่อว่า BMW Individual Frozen Dark Red Metallic โดย BMW M5 First Edition จะผลิตจำนวนจำกัดเพียงแค่ 400 คัน เท่านั้น

BMW M5 เริ่มสั่งซื้อได้ตั้งแต่เดือน กันยายน 2017 เป็นต้นไป ราคาเปิดตัวที่ยุโรปอยู่ที่ 117,900 ยูโร และจะเริ่มส่งมอบได้ในฤดูใบไม้ผลิปี 2018 ส่วนตลาดเมืองไทยนั้นคงต้องรอฝั่งข่าวขาก บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย แต่ขนาด BMW M4 รุ่นพิเศษทั้งหลายยังเคยเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยกันแล้ว มีหรือที่ชาวไวร์เลสโรดจะยอมพลาดไม่นำ BMW M5 ใหม่ เข้ามาขาย

ปิดท้ายด้วยคลิปจาก Need For Speed Payback ให้ชมกันสักเล็กน้อย

แล้วพบกันใหม่บทความหน้าครับ

ที่มา BMW PressGroup, BMW-M

The following two tabs change content below.
มนุษย์เงินเดือนผู้คลั่งไคล้ในรถยนต์สมรรถนะยอดเยี่ยม นักแข่งรถสมัครเล่นที่มักจะพบเห็นวิ่งดมฝุ่นอยู่ท้ายสนาม คุณพ่อของลูกสาวที่น่ารัก และหนึ่งในทีมงาน Bimmer-th.com

Comments

comments