รีวิว BMW X6 xDrive​30d M Sport ใหญ่ ยักษ์ น่าเกรงขาม!

รูปทรงที่บึกบึนดุจนักเพาะกล้ามแต่มีเส้นสายของช่วงหลังคาที่ลาดลงดุจรถคูเป้ คือภาพของ BMW X6 ที่กำลังวิ่งโดดเด่นเข้ามาอย่างน่าเกรงขาม

หากย้อนกลับไปเมื่อราว 1 ทศวรรษก่อนอันเป็นช่วงเวลาที่ฝ่ายออกแบบของ BMW ได้ริเริ่มนำส่วนผสมของ DNA รถ Coupe มาผสมให้เข้ากับ DNA ของรถ SUV (หรือ SAV ในพจนานุกรมของ BMW) จนได้ผลผลิตออกมาเป็นรถยนต์ Coupe ที่มีร่างทรงสูงยักษ์บึกบึน พร้อมลุยในทุกสถานการณ์ แต่แฝงไว้ด้วยเส้นสายด้านหลังของรถที่ลาดลงอย่างอ่อนช้อยให้ความคล้ายคลึงกับรถสองประตูหรูไม่มีผิด เป็นรถที่เจ้าของสามารถขับใช้งานได้โดยไม่ต้องระวังพื้นต่างระดับมากนัก แต่ยังคงสามารถขับใช้งานในเมืองได้แบบภูมิฐาน

ผลของการตัดต่อพันธุกรรมในครั้งนั้นทำให้ BMW ได้คลอด BMW X6 รุ่นแรกของค่ายออกมาตีตลาดรถยนต์กลุ่มนี้เป็นเจ้าแรกๆ โดยพวกเขาเรียกรถในกลุ่มนี้ว่า SAC (Sport Activity Coupe) ซึ่งภายหลัง BMW ได้คลอดรุ่นน้องในตระกูลนี้เพิ่มขึ้นอีกมากมาย หากจะกล่าวให้จำได้ง่ายคือ ใดๆ ที่หมวดอักษรขึ้นต้นด้วย X แล้วตามด้วยเลขคู่ 1ลำดับ BMW นับว่าเป็นรถ SAC เสียทั้งหมด ซึ่ง ณ ตอนนี้คงขาดแต่เพียงหมวดเลข X8 เสียเท่านั้น

สำหรับ BMW X6 รุ่นที่ผมนำมารีวิวในวันนี้ นับว่าเป็นรุ่นที่ 3 ในตระกูล X6 ที่ใช้ชื่อรหัสตัวถังว่า G06 อันเป็นรุ่นที่มีการต่อยอดมาจากรุ่นก่อนทั้งในเรื่องของดีไซน์ที่ถูกปรับให้สอดคล้องกับ BMW ในยุคปัจจุบัน โดยการออกแบบของ X6 โฉมใหม่มีภาษาการออกแบบในลักษณะของเส้นสายที่ทะมัดทะแมง เคร่งครึมแต่แฝงไว้ด้วยความมั่นใจ ซึ่งหากเรามองจากด้านข้างของรถก็จะเห็นได้ถึงสัดส่วนของรถที่ดูคลายนักกล้ามล่ำๆ แต่ถูกดัดให้อ้อนช้อยลงด้วยเส้นสายของหลังคารถด้านหลัง

ด้านหน้าของรถดึงดูดสายตาของทุกคนบนท้องถนนด้วยกระจังหน้าไตคู่ชิ้นยักษ์ ที่ตั้งตระหง่าโดดเด่นสอดรับกับชุดกันชนหน้าอย่างน่าเกรงขาม แม้ในยามที่แสงอาทิตย์จะลับขอบฟ้าจนยากต่อการมองเห็นตัวรถ

แต่ X6 ก็ยังคงดึงดูดทุกสายตาด้วยชุดไฟหน้าแบบ Laser light ที่เรืองแสงสีน้ำเงินขึ้นมาต้อนรับเวลาเปิดรถ พร้อมกับกระจังหน้าไตคู่ชิ้นยักษ์ที่เรืองแสงขณะขับขี่ตอนกลางคืน ทันที ที่คุณมอง X6 จากกระจกหลังรถคันอื่น คุณจะรู้สึกเหมือนมีอสูรกลายยักษ์กำลังวิ่งตามคุณอยู่แบบไม่ห่างและนั้นคือส่วนที่ทำให้ X6 คันนี้โดดเด่นและน่าเกรงขามบนถนนทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน

มัดกล้ามของเส้นสายข้างรถ ถูกสะกดด้วยล้ออัลลอย M ที่มีขนาดใหญ่ยักษ์ลาย Double-spoke ขนาด 22 นิ้ว โดยรัดมาด้วยชุดยางคู่หน้าที่มีขนาดกว้างถึง 275//35 และล้อคู่หลังขนาด 315/30 พร้อมด้วยชุดเบรก M ทั้งหน้าและหลัง

ด้านท้ายของรถแม้จะมีขนาดที่กว้างและใหญ่โต แต่เหล่านักออกแบบของ BMW พยายามออกแบบให้ตัวของ X6 ยังคงดูปราดเปรียวไม่เทอะทะด้วยดีไซน์ของชุดไฟท้ายแบบ L Shape ที่ถูกออกแบบมาให้บางและสอดรับเข้ากับชุดกันชนท้าย M Sport ได้เป็นอย่างดี พร้อมกับมีการปรับความสูงของหลังคาให้เตี้ยลงจาก X6 รุ่นก่อน 6 มิลลิเมตร กันชนหลังโดดเด่นด้วยช่อง Air Breather และท่อไอเสียคู่ขนาดใหญ่ที่มีท่อไอเสียอยู่ด้านในจริงๆ

ภายในของรถถูกผสมผสานระหว่างความหรูหราและความ Sport ไว้ด้วยวัสดุหรูชั้นดีอย่าง Carbon Fiber ซึ่งมีความเงาและเนื้อสัมผัสที่เนียนดุจรถ Sport สองประตูเรือธงของค่าย เบาะนั่งของ X6 เป็นแบบ Sport หุ้มมาด้วยหนัง Vernasca ที่เจาะรูระบายอากาศเล็กๆ เอาไว้เพื่อลดอาการเหนื่อยล้าขณะนั่งเดินทางไกล

ชิ้นส่วนคอนโซลด้านหน้ารถและแผงประตูด้านข้างถูกหุ้มไว้ด้วยหนังคุณภาพดีโดยมีการเดินตะเข็บบุนุ่มตามจุดต่างๆ อย่างเป็นระเบียบ แผงประตูด้านข้างและด้านหน้านั้นซ่อนตำแหน่งไฟ Ambient Light ไว้สำหรับการเพิ่มบรรยากาศในห้องโดยสารยามกลางคืนอย่างสวยงาม

เรือนไมล์ของรถและหน้าจอกลางจัดเต็มด้วยระบบ BMW Live Cockpit Professional พร้อมเครื่องเสียง Harman Kardon ที่ดูอวกาศและแฟงลูกเล่นเอาไว้แบบเต็มพิกัด

นอกเหนือจากนี้ BMW X6 ยังจัดเต็มด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่ BMW Driving Assistant Professional ที่สามารถทำงานควบคู่กับระบบ Active Cruise control ที่มีฟังก์ชัน Stop&Go ซึ่งเมื่อทั้งสองระบบทำงานควบคู่กันแล้ว BMW X6 คันนี้ ก็เกือบจะเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนได้เองแบบ Auto-Pilot เลยทีเดียว

โดยผู้ขับขี่สามารถตั้งล็อคความเร็วและระยะห่างจากรถยนต์คันหน้าตามที่ต้องการ โดยคนขับมีหน้าที่แค่แตะพวงมาลัยเบาๆ ไว้ แล้วปล่อยให้ระบบช่วยจัดการส่วนที่เหลือ รวมไปถึงการรักษารถให้อยู่ในเลนและการเข้าโค้งซึ่งจะช่วยให้การเดินทางไกลนั้นผ่อนคลายและสะดวกสบายมากขึ้น

ตำแหน่งของเบาะนั่งหลังถึงแม้ว่า X6 จะมีเส้นสายของแนวหลังคารถที่ลาดลงมามากกว่า X5 แต่ตำแหน่งของเบาะนั่งด้านหลังก็ยังคงมีพื้นที่ที่ใช้งานได้จริง โดยที่ยังคงให้ความรู้สึกโปร่งไม่แพ้ X5 ตัวของเบาะรองรับการนั่งแบบ 3 ที่นั่ง สามารถปรับความเย็นของแอร์ด้านหลังได้แบบอิสระ 4 Zone

หากเงยหน้าขึ้นไปบนหลังคาคุณจะพบกับกระจก Panoramic ที่ BMW เคลมว่ามีขนาดใหญ่กว่า X6 รุ่นก่อนถึง 83% ทำให้ภาพรวมของภายในห้องโดยสาร X6 ดูแล้วมีทั้งความสปอร์ตที่วัยรุ่นขึ้นกว่า X5 แต่ยังคงความโปร่งโล่ง ใช้งานได้จริงไม่แพ้กับ X5 ที่หลังคาด้านหลังไม่ลาดลงมาเลยครับ

เช่นเดียวกับพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง ที่ถึงแม้หลังคาจะโดนดัดลงมาให้เตี้ยกว่า X5 แต่ X6 คันนี้ยังคงขนาดพื้นที่เก็บของได้กว้างถึง 580ลิตร และสามารถขยายให้กว้างได้ถึง 1,530 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลง

ด้านการขับขี่ BMW X6 รุ่นย่อย ที่ BMW Thailand นำเข้ามาขายนั้นมีชื่อรุ่นย่อยของเครื่องยนต์ว่า 30d ซึ่งเป็นเครื่องยนต์แบบ ดีเซล ขนาดความจุ 3.0 ลิตร 6 สูบแถวเรียง  TwinPower Turbo ซึ่งให้พละกำลังที่สูงถึง 265 แรงม้าและมีแรงบิดที่มหาศาลถึง 620 นิวตันเมตร โดยส่งพละกำลังทั้งหมดไปที่ชุดเกียร์ 8 Speed และถ่ายทอดพลังสู่ถนนผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ xDrive

แม้ว่าขุมพลังชุดนี้จะไม่ใช่รหัสที่แรงที่สุดของ X6 ที่มีในต่างแดน แต่มันก็มีพละกำลังมากเพียงพอที่จะสามารถพา X6 ร่างยักษ์คันนี้ทะยานสู่ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 6.5 วินาทีเท่านั้น โดยตัวเลข Top speed BMW เคลมไว้ที่ 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ตัวเลขสมรรถนะดังกล่าวเหลือเฟือต่อการวิ่งใช้งานบนถนนเมืองไทย โดยพละกำลังของเครื่องยนต์ดีเซลที่ให้แรงบิดที่มหาศาลขนาดนี้ ทำให้ทุกครั้งที่ผมเติมคันเร่งในช่วงความเร็วกฎหมายกำหนด หลังของคนขับสามารถถูกดึงติดเบาะได้ทุกครั้ง พลังของรถที่ถ่ายทอดออกมามีมาอย่างไม่ขาดสาย

เสียงคำรามเบาๆ ของเครื่องยนต์ 6 สูบขณะล่องอยู่ในเมืองคือสิ่งแรกที่ทำให้ผมสัมผัสได้ถึงพละกำลังที่รอรับใช้อยู่ทุกเมื่อ ถึงแม้ X6 จะมีขนาดตัวรถที่ใหญ่คับถนนแต่พอได้ขึ้นมาขับจริงคุณจะค้นพบว่าเราสามารถพารถคันนี้ลัดเลาะไปในเมืองได้อย่างง่ายดายไม่แพ้รถเล็ก พวงมาลัยของรถถูกเซ็ตมาได้ลงตัวระหว่างการใช้งานในเมืองและนอกเมือง โดยน้ำหนักของพวงมาลัยสามารถปรับให้หนืดหรือเบาได้เมื่อเปลี่ยน Mode การขับขี่

ช่วงล่างของรถนั้นเป็นแบบ Adaptive M ที่สามารถปรับความแข็งอ่อนได้ ตาม Mode การขับขี่ ในโหมด Comfort นั้นถึงแม้ X6 คันนี้จะไม่ได้มีช่วงล่างเป็นแบบถุงลมแต่การรูดขับผ่านหลุมต่างๆ บนท้องถนนนั้นก็ไม่ได้สะเทือนจนเกินเหตุ จะคงเหลือความตึงตังไว้บ้างตามแบบฉบับของรถที่มีล้อใหญ่และมียางแก้มเตี้ยดุจรถแข่ง

ในการเดินทางไกลบนทางพิเศษระหว่างเมืองต่างๆ อาการของช่วงล่างจะแข็งกว่า X5 เวลาเจอปูดของช่วงถนนที่ไม่เรียบเนียนนัก อาการดังกล่าวจะแสดงมาให้คนขับได้รับรู้ว่าเรากำลังควบรถ SAC ที่ถูกออกแบบให้ Sport กว่า X5 ที่ดีไซน์มาสำหรับครอบครัว แต่ก็ไม่ได้แข็งแบบเก็บทุกรอยต่อถนน อย่างน้องรถเล็ก 330i M Sport เช่นเดียวกับการเข้าโค้งที่ช่วงล่างของ X6 ชุดนี้ยังไม่สามารถขจัดอาการของรถให้พ้นหลักฟิสิกเรื่องน้ำหนักตัวรถเวลาเจอโค้งหักศอกแคบๆ ไปได้​ อาการของรถยังไม่โดดเด่นเท่าน้องเล็กของค่าย โดยรวมแล้วมันเป็นช่วงล่างที่ดูเหมือนวิศวกรจะตั้งใจทำไว้เพื่อวิ่งทางตรงยาวๆ แบบ Autobahn หรือทางพิเศษระหว่างเมืองมากกว่า

บทสรุป

ใหญ่ ยักษ์ น่าเกรงขาม ถึงแม้ว่าลึกๆ ผมจะเป็นคนที่ไม่ได้อินกับรถที่มีดีไซน์ลูกผสมแบบนี้ซักเท่าไร แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้จริงๆ ว่า X6 คันนี้มีรูปร่างที่โดดเด่นน่าเกรงขามเหนือรถคันอื่นเมื่อวิ่งบนถนนจริง มันเป็นรถที่ถ้าคุณเห็นในวินาทีแรกคุณจะสงสัยและจ้องมองแบบละสายตาไม่ได้ โดยเมื่อได้มองไปซักพักคุณจะค่อยๆ โดนมนต์สะกดเหมือนมีคาถาบางอย่างที่ทำให้ตกหลุมรักแบบไม่มีเหตุผล

มันคือรถที่เพรียบพร้อมทุกอย่างทั้งดีไซน์ที่ได้ทั้งความ Sport กลิ่นอาย Coupe แถมยังดูน่าเกรงขามทนทานในแบบรถ SUV และยังเหมาะสำหรับครอบครัวเวลาเดินทางไกลอีกด้วย

• 

ส่วนผสมบางอย่างพิมพ์ๆ ไปแล้วชวนให้ผมนึกถึงส่วนผสมของน้ำผักบางชนิดที่เราต่างรู้ว่าโดดเด่นกันคนล่ะด้าน และบางครั้งอาจจะฟังแล้วชวนให้ร้องยี๊ในวินาทีแรกที่ได้ยิน พร้อมกับเถียงคุณแม่ที่ทำน้ำผักแก้วนั้นไปว่ามันไปด้วยกันไม่ได้หรอก แต่สุดท้ายพอคุณแม่คุณปั่นทุกอย่างแล้วบังคับให้ชิม คุณกลับค้นพบว่ารสชาติมันก็ไม่ได้เลวร้ายเกินไป แถมยังอร่อยในแบบที่คุณเองก็ไม่รู้จะอธิบายว่าเป็นรสชาติอะไรด้วยซ้ำ ส่วนผสมทุกอย่างเมื่อถูกปั่นแล้วมันกลับเข้ากันในแบบที่เราไม่เชื่อตัวเอง

คงต้องยอมรับจริงๆ ครับว่าถ้าเรื่องอาหารให้เชื่อมือแม่และเรื่องสูตรการทำรถให้ขับสนุกจงเชื่อมือ BMW ครับ...

BMW X6 xDrive 30d M Sport ราคา: 7,299,000 บาท
* ราคาข้างต้นรวมแพคเกจ BSI Standard ข้อมูล ณ วันที่ 27/12/2020

ขอขอบคุณ BMW Thailand
ที่เอื้อเฟื้อรถในการทดสอบ

บทความโดย
ธิติพัทธ์ หิรัญบวรทิพย์

---

สงวนลิขสิทธิ์เนื้อหาถ้อยคำรูปภาพในบทความโดยผู้เขียนและเว็บไซต์ BIMMER-TH.com
กรุณาขออนุญาตก่อนนำไปใช้

Comments

comments