ย้อนกลับไปไม่นานมานี้ BMW ได้ศึกษาและพัฒนาเกี่ยวกับเทคโนโลยีพลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น รถยนต์แบบ Plug-in Hybrid หรือ รถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าล้วน และได้นำร่องสายการผลิต Plug-in Hybrid อย่าง BMW X5 xDrive40e เป็นตัวแรก ตามมาด้วย BMW 330e , BMW 740e iPerformance และแน่นอนว่า BMW 5 Series(G30) ตัวใหม่นี้มีรุ่นสำหรับคนที่ชื่นชอบพลังงานทางเลือกแบบ Plug-in Hybrid เช่นกัน มีชื่อรุ่นย่อยว่า BMW 530e iPerformance
ด้านขุมพลังของ BMW 530e iPerformance ใช้เครื่องยนต์เบนซิน TwinPower turbocharged ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิด 290 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 88 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร รวมกำลังทั้ง 2 ระบบให้กำลังสูงสุด 252 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเมตร
ขุมพลังดังกล่าวได้จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ steptronic ทำอัตราเร่ง 0-60 mph ภายใน 6.1 วินาที ซึ่ง BMW เคลมว่าตัวเลขอัตราเร่งนั้นไม่ต่างกับรุ่น 740e iPerformance มากนัก ซึ่งทำให้ 530e Plug-in Hybrid เป็นที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มลูกค้ารถยนต์หรูขนาดกลางเพราะว่าได้ความคุ้มค่าเปรียบเสมือนกับได้ 7-Series แบบย่อส่วน
สำหรับ 530e iPerformance คันนี้ใช้แบตเตอรี่ Hybrid ขนาด 9.2 kWh ติดตั้งอยู่ใต้เบาะหลังซึ่งติดอยู่กับถังน้ำมันเชื้อเพลิง แต่แตกต่างกับ 740e iPerformance เพราะว่าแบตเตอรี่ถูกย้ายไปติดตั้งอยู่บริเวณใต้ที่เก็บสัมภาระท้ายรถ ส่งผลให้ที่เก็บสัมภาระด้านหลังไม่เป็นพื้นราบเรียบเหมือนกับ 530e คันนี้
การชาร์จแบตเตอรี่นั้นมี 2 วิธีด้วยกันคือ การชาร์จแบบธรรมดาด้วยเต้าเสียบไฟ 120V(US) สำหรับบ้านเราจะใช้ไฟ 220V ปกติ ใช้เวลาชาร์จทั้งหมด 7 ชั่วโมง หรือว่าใช้ BMW i Wallbox ขนาด 3.6kW – 7.2 kW (16/32 A, 240 V)(US) จะใช้เวลาในการชาร์จเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น(สามารถสั่งซื้อจากตัวแทนจำหน่าย BMW อย่างเป็นทางการได้)
ในการขับขี่เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็มสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดในโหมด MAX eDrive ได้ถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในโหมด AUTO e Drive ได้ถึง 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถวิ่งได้ไกลถึง 46 กิโลเมตรด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ส่วนในด้านของโหมดการขับขี่ต่างๆจะเหมือนกับ 330e และ 740e
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับ BMW 530e iPerformance คันนี้ก็คือระบบขับเคลื่อนสามารถเลือกได้ระหว่างขับเคลื่อนเฉพาะล้อหลัง sDrive เป็น option standard หรือสามารถเลือก option เพิ่มเติมอย่าง xDrive ขับเคลื่อนทั้ง 4 ล้อได้ มีให้เลือก 2 ทางเลือกเป็นครั้งแรกในตระกูล iPerformance อีกด้วย
และสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนีไม่พ้น ระบบช่วยในการขับขี่แบบกึ่งอัตโนมัติ BMW’s autonomous driving aids สามารถทำงานร่วมกับโหมด eDrive ซึ่งสามารถใช้พลังงานในแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบนี้จะทำงานโดยช่วยรักษาตัวรถให้อยู่ภายในเลนถนน เปลี่ยนเลนถนนได้โดยอัตโนมัติ(เมื่อผู้ขับขี่ให้สัญญาณไฟเลี้ยว) หลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ หรือสามารถวิ่งในสภาพการจราจรแออัดได้ด้วยตัวเอง ระบบสามารถทำงานได้ที่ช่วงความเร็ว 0-210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ระบบความปลอดภัยใหม่ของ BMW ที่ใส่มาให้คือ Evasion Aid with Active Driving Assistant Plus ระบบจะทำการตรวจสอบรถคันหน้าเมื่อรถคันหน้าเกิดเบรกอย่างกระทันหัน แล้วพบว่ารถของเรากำลังจะพุ่งชนคันข้างหน้า ระบบจะตรวจสอบช่องจราจรด้านข้างทันที ถ้าช่องจราจรว่างระบบจะทำการหักหลบเปลี่ยนเลนเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุได้โดยอัตโนมัติ สามารถทำงานได้ความเร็วสูงถึง 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สำหรับคนที่ชอบรถขนาด mid-size luxury saloon และชื่นชอบในพลังงานทางเลือกเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างรถยนต์ Plug-in Hybrid คงจะชื่นชอบ BMW 530e iPerformance คันนี้ไม่ใช่น้อย เพราะว่าได้ทั้งความแรงและความประหยัดไปในทิศทางเดียวกัน กำหนดการนั้นเปิดตัวนั้น BMW จะเปิดตัว 530e คันนี้ภายในปี 2017 อดใจอีกไม่นานเกินรอ เราจะได้ยลโฉมอย่างเป็นทางการแน่นอนครับ
ที่มา: BMWBLOG
Chawin Serbhirun
Latest posts by Chawin Serbhirun (see all)
- หลุดภาพ Spyshot ภายในห้องโดยสาร BMW 1 Series 2019 พร้อมโชว์ไฟ Ambient light ดีไซน์ใหม่ล่าสุด - February 19, 2019
- Spyshot : พาส่องภาพ BMW 2 Series Gran Coupe ขณะถูกขนบนรถเทรลเลอร์ - January 7, 2019
- BMW X5 (G05) ผ่านการทดสอบการชนตามมาตรฐาน Euro NCAP ด้วยคะแนนเต็มระดับ 5 ดาว - December 13, 2018
