BMW Thailand ทุบสถิติยอดขายใหม่สูงสุดกว่าหนึ่งหมื่นคันของทั้งสามแบรนด์

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ด้วยสถิติยอดขายใหม่ในปี 2558 ของทั้งบีเอ็มดับเบิลยู มินิและบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ส่งผลให้ธุรกิจทั้งสามแบรนด์มียอดส่งมอบกว่า 10,000 คัน โดยมียอดส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ จำนวน 8,768 คัน เพิ่มขึ้น 5เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด 1,280 คัน เพิ่มขึ้น 83 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า รวมเป็นสถิติยอดส่งมอบของทั้งสามแบรนด์ที่10,048 คัน ในปี 2558 ซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และนับเป็นการสร้างสถิติแห่งความสำเร็จของแต่ละแบรนด์ ทั้งบีเอ็มดับเบิลยู มินิและบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด

มร. แมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “ปี 2558 ที่ผ่านมาเป็นปีที่ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ด้วยการสร้างสถิติใหม่เฉลิมฉลองความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจที่จะครบรอบ 100 ปีของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ทั่วโลก ในเดือนมีนาคม 2559 ที่จะถึงนี้ ด้วยยอดขายสูงสุดทั่วโลกมากกว่า 2.2ล้านคัน รวมรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู มินิและโรลส์-รอยซ์ ที่ส่งมอบให้แก่ลูกค้าทั้งสิ้น 2,247,485 คัน นับเป็นยอดขายที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของกรุ๊ป ส่งผลให้มีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วที่ 6.1 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และทำให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป รักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมของโลกได้ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 11”

“ปี 2558 นับเป็นอีกปีแห่งประวัติศาสตร์ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ด้วยยอดขายที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน โดยมียอดขายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู 7,751 คัน เพิ่มขึ้น 4 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมินิที่มียอดจำหน่ายผ่านสี่หลักเป็นครั้งแรกด้วยจำนวน 1,017 คัน เพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงความต้องการในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิรุ่นต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับยอดขายของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ก็ได้สร้างสถิติใหม่ด้วยยอดขายรวมทั้งสิ้น 1,280 คัน เพิ่มขึ้นถึง 83 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นับเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ซึ่งคิดเป็น 4 เท่าของอัตราการเติบโตของตลาดบิ๊กไบค์โดยประมาณทั้งหมด”

“การเติบโตของบีเอ็มดับเบิลยู ในประเทศไทย สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อรถยนต์รุ่นต่างๆ ของบีเอ็มดับเบิลยูที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ความสำเร็จของเราในครั้งนี้เป็นผลจากยนตรกรรมที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยและดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ โดยบีเอ็มดับเบิลยูได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลกติดต่อกันถึง 3 ครั้ง รวมครั้งล่าสุดในปี 2015 นี้ด้วย คุณค่าแห่งแบรนด์ดังกล่าวยังเป็นที่ประจักษ์แก่ลูกค้าชาวไทย ในด้านความดึงดูดใจที่มีความเฉพาะตัว เช่นเดียวกันกับความคุ้มค่าในการลงทุนทั้ง ด้านประสิทธิภาพของการประหยัดพลังงานและประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ตลอดระยะเวลาในการครอบครอง ด้วยเทคโนโลยี BMW EfficientDynamics และ BMW Service Inclusive ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าของเรา และยังสร้างความมั่นใจในสมรรถนะด้านความประหยัดพลังงานสูงสุด พร้อมมอบความสะดวกสบายและสามารถไว้วางใจได้ในการรับประกันที่ได้ขยายขอบเขตเป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง เพื่อเป็นของขวัญในโอกาสครบรอบ 100 ปีของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ทั่วโลกในปี 2559 นี้

“และสำหรับมินิ ก็นับเป็นปีที่มีความสำเร็จอันโดดเด่น ด้วยการสร้างสถิติส่งมอบรถยนต์สูงสุด 1,017 คัน เติบโตขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าชาวไทย โดยมีมินิ คันทรีแมน มินิแฮทช์ ทั้งในรุ่น 3 ประตูและ 5 ประตู เป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อภาพรวมความสำเร็จของแบรนด์มินิ และในปี 2559 นี้ มินิขอมอบโปรแกรมการรับประกันที่ขยายขอบเขตการคุ้มครองสำหรับรถยนต์มินิตลอดระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทางเช่นกัน นอกจากนี้ มินิ ประเทศไทย ยังได้จัดแคมเปญพิเศษที่จะนำคนรักมินิผู้โชคดีบินตรงสู่ลอนดอน เยี่ยมชม MINI Plant Oxford สถานที่เกิดของรถมินิทั่วโลก และเป็นคนกลุ่มแรกที่จะได้ชมการเปิดตัวรถมินิแห่งอนาคตสุดเอ็กซ์คลูสีฟอีกด้วย”

“อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ในปี 2558 ที่ผ่านมา คือ การเติบโตของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ซึ่งได้มีการฉลองครบรอบ 15 ปี ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ด้วยยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมียอดส่งมอบมอเตอร์ไซค์ที่ 1,280 คัน เติบโตขึ้น 83 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็น 4 เท่าของอัตราการเติบโตของตลาดบิ๊กไบค์โดยประมาณทั้งหมด”

“ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ในประเทศไทยนี้ เป็นผลจากยนตรกรรมที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยและดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงความแข็งแกร่งของการเป็นแบรนด์ระดับพรีเมี่ยม และชื่อเสียงระดับโลกของบริษัทในด้านความยั่งยืน” มร.แมทธิอัส กล่าวสรุป

เดินหน้าต่อเนื่องสู่อนาคตแห่งความยั่งยืน

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยได้พิสูจน์ถึงความเป็นผู้นำในด้านยนตรกรรมแห่งความยั่งยืนของอนาคต โดยได้ขยายสถานีชาร์จ BMW i pure Wallbox ซึ่งพร้อมให้บริการชาร์จแบตเตอรี่บีเอ็มดับเบิลยู ตระกูล i ไม่คิดค่าบริการใดๆ สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์จากผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยู i อย่างเป็นทางการเท่านั้น ซึ่งอยู่ภายในโซนจอดรถพิเศษของงศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และอาคารออล ซีซั่นส์ เพลส และเตรียมที่จะขยายไปยังศูนย์การค้าและโรงแรมในระดับห้าดาวเพื่อขยายการให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น

การขยายคลังอะไหล่สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 220 ล้านบาท เพื่อรองรับการให้บริการที่รวดเร็วและครบครัน

“ในช่วงกลางปี 2559 นี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เตรียมย้ายคลังอะไหล่ไปยังถนนบางนา–ตราด ภายในนิคมอุตสาหกรรมเทพารักษ์ โดยจะขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นเกือบ 3เท่า ครอบคลุมพื้นที่กว่า 14,000 ตารางเมตร รองรับการเก็บอะไหล่กว่า 40,000 รายการ และเพิ่มจำนวนการส่งอะไหล่ได้กว่า 2,000 ไลน์ต่อวัน ส่งเสริมให้ การบริการด้านลอจิสติคส์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อรองรับความต้องการด้านบริการของลูกค้า ทั้งในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นทุกปี”

2559: บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย พร้อมขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการในจังหวัดสำคัญทางภาคใต้และภาคเหนือ

“ภายในปี พ.ศ. 2559 นี้ เราจะขยายศูนย์บริการครบวงจรผ่านเครือข่ายผู้จำหน่ายของเรา ได้แก่ ผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูแห่งใหม่ 2 แห่ง มินิ 2 แห่ง ในภูเก็ตและหาดใหญ่ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด 2 แห่ง ในภูเก็ตและพิษณุโลก พร้อมมุ่งนำเสนอบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูทุกท่าน ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ รวมถึงความร่วมมือกันในโปรแกรมฝึกทักษะช่างเทคนิคมืออาชีพ BMW Service Apprentice ซึ่งเข้าสู่ปีที่ 5 เพื่อรักษามาตรฐานระดับสูงของการให้บริการด้านเทคนิคอีกด้วย นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ยังได้ขยายโครงการพัฒนาบุคลากรด้านเมคคาทรอนิกส์ที่ได้เริ่มขึ้นในปี 2558 ร่วมกับทางวิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ โดยในปี 2559 นี้ จะเริ่มการพัฒนาบุคลากรร่วมกับโรงเรียนจิตรลดา (สายวิชาชีพ) เป็นปีแรก ด้วยจุดประสงค์ในการพัฒนาศักยภาพอาชีวศึกษาไทย รวมถึงทักษะและความสามารถของบุคลากรด้านยานยนต์ให้เทียบเท่าระดับสากล พร้อมรองรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” มร.แมทธิอัส พฟาลซ์ กล่าวสรุป

2559: เปิดตัวรุ่นใหม่เติมเต็มประสบการณ์การขับขี่

มร.พฟาลซ์ ได้ประกาศการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู 3 รุ่นใหม่ล่าสุดในประเทศไทย ที่พร้อมจะมานำแสดงในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37 นี้

“เพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จในด้านเทคโนโลยีและยนตรกรรมแห่งความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย พร้อมเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู 330eปลั๊กอินไฮบริด ต่อเนื่องจากการเริ่มเปิดตัวเทคโนโลยีในระบบนี้ ด้วยรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู i8 เมื่อปี 2557 และบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e ในปี 2558 นับเป็นปีที่ 3 ที่บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยได้นำเสนอเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริด เพื่อนำพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาสู่ถนนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง”

“นอกจากนี้ เรายังได้เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive18d ใหม่ ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 ของบีเอ็มดับเบิลยู X1 มาพร้อมเครื่องยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ทวินพาวเวอร์ เทอร์โบ ดีเซล 4 สูบ รุ่นใหม่ล่าสุด 1,995 ซีซี 150 แรงม้า  ให้อัตราสิ้นเปลืองเชิ้อเพลิงเพียง 21.3 กิโลเมตร/ลิตร และอัตราการปล่อย CO2 ที่ 125 กรัม/กิโลเมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ Steptronic Sport 8 สปีด”

“สำหรับแฟนบีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม นั้น เราจะได้นำบีเอ็มดับเบิลยู M2 คูเป้ มาเปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เพื่อลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูที่ชืนชอบการขับขี่แบบสปอร์ตโดยเฉพาะ บีเอ็มดับเบิลยู M2 คูเป้ มาพร้อมขุมกำลัง บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม ทวินพาวเวอร์เทอร์โบ 3.0 ลิตร 370 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชม. ที่ 4.3 วินาที และมีอัตราความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชม. ควบคุมด้วยเกียร์อัตโนมัติ M แบบคลัตช์คู่ 7 จังหวะ ตอบสนองการขับขี่แบบรถแข่งได้ในทุกจังหวะและในทุกย่านความเร็ว เพื่อแฟนพันธุ์แท้ของบีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม โดยเฉพาะ”

“สำหรับ มินิ ประเทศไทย เราได้ตรียมนำ มินิ คอนเวอร์ทิเบิล รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งเปิดตัวสู่สายตาแฟนมินิ          ทั่วโลกในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ เมื่อเดือนตุลาคม 2558 มาให้แก่แฟนมินิในประเทศไทยเป็นครั้งแรกในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37 นี้ เช่นกัน”

นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ย้งได้นำเสนอมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ในชุดสีใหม่ Black Storm Metallic/Racing Red และยังจัดทำชุดแต่งพิเศษสำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS เพื่อร่วมเฉลิมฉลองรายการแข่งขันมอเตอร์ไซค์วิบากระดับโลก International GS Trophy 2016 ซึ่งจะจัดการแข่งขันที่จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึง 5 มีนาคมนี้ และเรายังเตรียมนำเสนอชุดอุปกรณ์การขับขี่คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด พร้อมทั้งสินค้าไลฟ์สไตล์ต่างๆ ให้กับสาวกของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดตลอดทั้งปี บีเอ็มดับเบิลยูเชื่อมั่นว่า มอเตอร์ไซค์ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ต่างๆ ซึ่งได้รับการพัฒนาใหม่ จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะตอบสนองความต้องการของนักขี่บิ๊กไบค์ชาวไทยอย่างแน่นอน” มร.แมทธิอัส พฟาลซ์ เสริม

มอบประสบการณ์การเป็นเจ้าของบีเอ็มดับเบิลยู ผ่านการดูแลจาก BMW Excellence Club เพื่อมอบทุกมิติแห่งสุนทรียภาพของความเป็นผู้นำ

เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบหนึ่งศตวรรษของบีเอ็มดับเบิลยู  บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังได้เตรียมมอบประสบการณ์ใหม่ในการให้บริการอย่างเหนือระดับ ด้วย BMW Excellence Club สำหรับลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยู i8และบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 พร้อมสิทธิประโยชน์ต่างๆ เปี่ยมไปด้วยความหรูหราเหนือระดับ ไม่ว่าจะเป็นบริการผู้ช่วยด้านไลฟ์สไตล์ส่วนบุคคล ที่ให้บริการตลอด 24 ชม. บริการรถรับ-ส่งจากสนามบินสู่ที่พักด้วยรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7  บริการ Fast Track ไม่จำกัดจำนวนครั้งที่สนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึง 7 กิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูสีฟที่ให้ลูกค้าได้เลือกสรรตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เป็นต้น

ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูยังสามารถพบกับประสบการณ์การขับขี่สุดพิเศษกับรถยนต์ SAV ในตระกูลซีรี่ส์ X กับกิจกรรม BMW xDrive Xperience 2016 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 11-21 กุมภาพันธ์นี้ ในสนามที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษ ณ ไทย โปโล แอนด์ อีเควสเทรียน คลับ พัทยา จังหวัดชลบุรี เพื่อทดสอบสมรรถนะของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive พร้อมสัมผัสกับดีไซน์อันทรงพลัง ห้องโดยสารที่โอ่อ่าหรูหรา ดีไซน์ภายในแบบอเนกประสงค์ และการขับขี่ที่เพลิดเพลินและประหยัดพลังงาน

บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส สร้างสถิติใหม่ฉลองครบรอบ 15 ปี สะท้อนการเติบโตต่อเนื่องทุกปีของลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ

ดร. ปีเตอร์-โอลิเวอร์ วากเนอร์ ประธานกรรมการบริหาร บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 15 ปี ของบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย นั้นนับว่าประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม ด้วยความมุ่งมั่นของพนักงานทุกคนและเครือข่ายผู้จำหน่ายอันแข็งแกร่ง ทำให้              เราสามารถมอบผลิตภัณฑ์และการบริการด้านการเงินที่มีคุณภาพแก่ลูกค้าชาวไทยมาตลอด และในปี 2558 ธุรกิจของเราสร้างสถิติเติบโตถึง 12.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าสินเชื่อในพอร์ตเติบโตขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็น 33.4 พันล้านบาท นับเป็นสถิติมูลค่าสินเชื่อในพอร์ตที่สูงที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างลูกค้า เครือข่ายผู้จำหน่ายและบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย”

“เนื่องในโอกาสพิเศษเช่นนี้ เราได้เปิดตัวโครงการ แคร์ ฟอร์ วอเตอร์ (Care 4 Water) ในประเทศไทยเป็นประเทศแรกในโลก ด้วยจุดมุ่งหมายของบีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ในการเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้แก่คนไทย ประกอบกับสถานการณ์ภัยแล้งที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ ทำให้เราเล็งเห็นถึงความยากลำบากในการเข้าถึงน้ำสะอาดสำหรับการอุปโภคและบริโภคในหลายพื้นที่ อันเป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิต เราจึงได้ร่วมมือกับ Waves For Water องค์กรที่ให้ความช่วยเหลือด้านโซลูชั่นในการจัดการให้น้ำสะอาดจากประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการ ริเริ่มโครงการ แคร์ ฟอร์ วอเตอร์ เพื่อถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับระบบการกรองน้ำพร้อมมอบโซลูชั่นดังกล่าวให้แก่คนไทยในพื้นที่ขาดแคลน” ดร.วากเนอร์ กล่าวเสริม

“ภายในปี 2559 นี้ เราตั้งเป้าที่จะส่งมอบเครื่องกรองน้ำอย่างน้อย 2,000 เครื่อง เพื่อให้คนไทยกว่า 200,000 คนได้เข้าถึงน้ำสะอาด และจะเดินหน้าทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งมอบและติดตั้งเครื่องกรองน้ำให้ได้อย่างน้อยจำนวน 5,000 เครื่อง สำหรับคนไทยกว่า 500,000 คน ภายในปี 2561” มร. วากเนอร์ กล่าวสรุป

The following two tabs change content below.

Comments

comments